รวบ "อดีตตำรวจ" ตั้งแก๊งรีดไถ-ยัดยาเสพติด เร่งล่าผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย
(29 เม.ย.63) เวลา 20.00 น. ที่ กก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.ปิโยรส กัณหะสิริ ผกก.สส.บก.น.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมทำบันทึกจับกุมตัว นายสกล แสงพวง อายุ 36 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ อดีตข้าราชการตำรวจยศสิบตำรวจโท สังกัด บก.สปพ.191 ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิด ท้องที่ สน.พระโขนง และตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีวิกฤติโรคโควิด-19 ไปกบดานที่บ้านเกิด ต.หูกวาง อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2557 นายสกล เคยรับราชการตำรวจในสังกัด กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(บก.สปพ.191 บช.น.) แต่มีพฤติกรรมประพฤติชั่วร้ายแรง เนื่องจากผู้เสียหายหลายรายร้องทุกข์ว่า ถูก ส.ต.ท.สกล เรียกเอาทรัพย์สินแลกกับการไม่ดำเนินคดีข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด จากการตรวจสอบของผู้บังคับบัญชาเวลานั้น พบว่า ทำความผิดจริง จึงมีคำสั่งให้ ส.ต.ท.สกล ออกจากราชการ แต่ในเวลาต่อมาชุดจับกุมสืบทราบว่าเจ้าตัวยังไม่ละเลิกพฤติกรรมดังกล่าว แม้จะกลายเป็นพลเรือนเต็มตัวแล้ว แต่ยังร่วมกันกับพรรคพวกซึ่งเป็นสายคดียาเสพติด เข้าทำการแอบอ้างตัวเป็นตำรวจ เข้าตรวจสอบผู้ต้องสงสัยและเรียกรับเงินจากการกระทำดังกล่าวอยู่เสมอ
คดีที่ สน.พระโขนง นั้น นายสกล ได้ร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนีอีก 2 คน ใช้อาวุธปืนเข้าไปบีบบังคับพยายามยัดข้อหายาเสพติดให้กับผู้เสียหายรายหนึ่ง เมื่อกระทำการอุ้มผู้เสียหายเข้าไปในเซฟเฮ้าส์แล้ว ไม่สามารถเรียกรับเงินตอบแทนได้ จึงก่อเหตุปล้นรถเก๋งของผู้เสียหายหลบหนีไป 1 คัน ส่วนคดีที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ นายสกล ได้ร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนีชุดเดิม พยายามบุกรุกเข้าไปจับกุมเหยื่อผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย ถึงในบ้านพัก ขณะก่อเหตุได้พังประตูบ้านของเหยื่อเข้าไป ทำให้ทรัพย์สินเสียหายประมาณ 20,000 บาท ต่อมาจึงถูกแจ้งความจับกุมตัวและถูกศาลออกหมายจับกระทั่งชุดจับกุมไปตะครุบตัวไว้ได้ที่บ้านเกิด
สอบสวนนายสกล ให้การยอมรับว่า หนีคดีไปตามสถานที่ต่างๆ มาได้เกือบ 3 ปี แต่ช่วงนี้ไปไหนก็ลำบากเพราะวิกฤติโควิด-19 จึงต้องเสี่ยงกลับมาที่บ้านเกิด ไม่คิดว่าตำรวจจะรู้ความเคลื่อนไหว ซึ่งก่อนหน้านี้ยอมรับยังคลุกคลีกับพรรคพวกในวงการตำรวจและสายลับคดียาเสพติดอยู่อย่างสม่ำเสมอ เมื่อสงสัยผู้ใดมีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะยกพวกไปทำการตรวจสอบ สำหรับคดีที่ สน.พระโขนง นั้น รถที่ทำการปล้นมาจากผู้เสียหาย ไม่ได้อยู่กับตนแต่มีพรรคพวกในทีมขับหลบหนีไปตอนแยกย้าย ส่วนอาวุธปืนของตนนั้นได้จำนำไว้กับเพื่อนตำรวจไปตั้งนานแล้วไม่สามารถติดต่อได้ และไม่เคยนำพาไปก่อเหตุด้วยแต่อย่างใด
เบื้องต้นชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหาแก่นายสกล ตามที่ศาลได้อนุมัติหมายจับ จากนั้นประสานพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง และ สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าของท้องที่ที่เกิดเหตุให้มาอายัดตัวไปดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนพรรคพวกอีก 2 รายที่ยังหลบหนีจะติดตามมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนด้วยเช่นกัน