รักไม่ใช่เรื่องง่าย อั้ม วอนอย่าขุดคุ้ย

รักไม่ใช่เรื่องง่าย อั้ม วอนอย่าขุดคุ้ย

รักไม่ใช่เรื่องง่าย อั้ม วอนอย่าขุดคุ้ย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แรกชัดเจนในรักกับนางเอกสาว  พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช แต่พอเลิกรา พระเอกหนุ่ม  อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ กลับถูกมองว่าคลุมเครือ เพราะออมคำ ไม่ยอมพูดเรื่องรักที่ปิดม่านลง

วันนี้สบโอกาสเหมาะ นัดแนะเจ้าตัวมาพูดคุยชนิดเปิดอก ที่ชั้น 21 ของตึกหรูใจกลางเมือง

- เห็นว่ากำลังเตรียมซื้อบ้าน?

อั้ม - "ครับ กำลังดูอยู่ แต่ยังไม่รีบ อยากให้ชัวร์ๆ ว่าชอบแน่ อยู่แน่ ที่เริ่มมองหาบ้าน สร้างความมั่นคง เพราะอยากมีคนอยู่เคียงข้าง คนที่ทำให้เรามีความสุขเวลาที่อยู่ใกล้เขา และเขาก็ต้องมีความสุขที่ อยู่กับเรา แต่เท่านั้นคงไม่พอ เราควรมีความมั่นคงในชีวิตอีกหลายๆ ด้าน ดูแลได้ทั้งครอบครัวเราและเขา วันนี้ชีวิตเราไม่ใช่แค่เด็กที่กำลังลองเรียนรู้ผิดถูก หรือกำลังหาประสบการณ์ชีวิต มาถึงวัยนี้วันนี้เราลองไม่ได้แล้ว เรียนแล้วควรจะรู้เลยทำเลย"

- เรื่องนี้ไม่ถามคงไม่ได้ ความสัมพันธ์กับพิ้งกี้ ที่เคยพูดว่าเป็นคนชัดเจนมาตั้งแต่ต้นที่จีบน้อง แต่ไยถึงคลุมเครือเวลาเลิกกัน?

อั้ม - "ผมยังคงชัดเจนกับความรู้สึก ไม่มีอะไรปิดบัง เมื่อเราเต็มที่ ทำดีที่สุดแล้ว ผลจะเป็นยังไง อย่างน้อยเรารู้ว่าเราได้ทำเต็มที่และดีที่สุดแล้ว ในรายละเอียดมันประกอบด้วยหลายๆ เรื่อง บางเรื่องจัดการได้ บางเรื่องจัดการไม่ได้ เป็นรายละเอียดที่รู้กันสองคน"

"หลายคนอาจจะมองว่าการที่เราเป็นดารา มองแล้วรู้สึกอิน คาดหวังกับความรักของเราไปกับข่าวที่ได้ยิน แต่สำหรับผมอยากจะบอกว่าเราเป็นคนธรรมดา เป็นมนุษย์ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง ซึ่งเหตุผลหรือปัญหาอะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นกับคู่รักดารา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์ทุกคนครับ"

- ไม่พูดเหตุผลในการเลิกกันก็ใช่ว่าจะจบ แต่กลับถูกขุดคุ้ย?

อั้ม - "อย่าขุดคุ้ยอะไรเลย ถ้าคนที่มีความรักเขาจะรู้ว่า การที่เราจะมีความรักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คำพูดอาจดูง่าย ถ้ารักก็ทำแบบนี้สิ ถ้าไม่รักก็ทำแบบนั้นสิ แต่ทางปฏิบัติ ความรักมันซับซ้อนมากกว่าที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้"

- แต่ถูกมองว่าสงบคำจนผิดสังเกต?

อั้ม - "อย่างที่บอกว่าไม่อยากให้ขุดคุ้ย เพราะเวลาคนสองคนคุยกัน เราอาจจะจบแบบเข้าใจกันแล้ว แต่เมื่อมีสื่อเข้ามาเป็นตัวกลาง ถามไปถามมาจนข้อมูลเปลี่ยน ทำให้เริ่มหันกลับมามองกันแบบมีข้อสงสัย ผมขอย้ำว่าเรื่องความรู้สึกของคนสองคนมันละเอียดอ่อนมาก การที่เราเป็นคนสาธารณะ เวลามีปัญหาจะปกปิดเลยก็ไม่ได้ แต่ส่วนหนึ่งอยากให้เข้าใจ มีบางสิ่งที่เราเองก็บอกใครไม่ได้ เราไม่พร้อมจะให้ใครเอาเรื่องความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนของเราทั้งคู่ไปพูดคุยวิจารณ์ ถ้าได้ฟังมันยิ่งจะทำร้ายความรู้สึก"

- รักจบ แต่ข่าวไม่จบ รู้สึกห่วงพิ้งกี้ที่อ่อนเยาว์กว่าไหม?

อั้ม - "(ถอนหายใจ) ผมเข้าใจว่ายังเป็นจุดสนใจ แต่ผมขอว่าอย่าทำให้คนสองคนต้องรู้สึกแย่ไปจากกันเลย อย่าเอาความรู้สึกที่ร้าวของ คนทั้งสองคนมาล้อเล่น อย่าชี้นำหรือตีให้แตก ไปกว่าเดิม มันจะทำให้เราเจ็บด้วยกันทั้งคู่ สำคัญน้องเขาเป็นผู้หญิง คุณพ่อคุณแม่น้องท่านน่ารัก ให้ความเอ็นดูผมเป็นอย่างมาก นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องดูแล ควรรับผิดชอบในส่วนที่ผมเป็นคนเข้าไป ในชีวิตน้องและครอบครัวตั้งแต่แรก แม้วันนี้เราห่างกัน ผมก็ยังคงเป็นกำลังใจให้น้อง ยังมีความปรารถนาดีให้"

- ไม่ว่าอั้มจะเริ่มรักหรือเลิกรัก ก็มักมีข่าวเกย์กลับมากวนใจ?

อั้ม - "ผมขอย้ำว่า ผมไม่เคยได้ใกล้เคียงกับคำคำนั้นเลยและไม่เคยเป็น ไม่มีแนวโน้มจะเป็น ไม่ว่าผมจะมีความรักหรือรักไม่ลงตัว มักจะถูกโยนข่าวนี้มาให้เสมอ มันไม่แฟร์ ความจริงคนเรามี 108 เหตุผลกับความรักไม่ลงตัว แต่ทำไมในทุกๆ ครั้งถึงต้องเป็นเพราะเหตุผลนี้มาโยนให้ผมตลอด ถ้าอยากจะแฟร์กับผม อย่าเพราะแค่ฟังคำคนอื่นแล้วเอามาคิด ถ้าจะฟังคำคนอื่นเขาเล่าลือหรือฟังคำเพื่อนบอก ผมขอให้ฟังคำผมบอกด้วยตัวผมเองดีกว่า ผมเป็นผู้ชายเต็มร้อย ผมพูดตรงๆ ไม่ใช่แก้ตัว เพราะผมรู้จักตัวผมเองดีที่สุด เมื่อผมไม่เป็นแล้วพยายามพูดให้ผมเป็นให้ได้งั้นเหรอ ผมว่ามันไม่แฟร์"

- แล้วรู้สึกอย่างไรที่ถูกว่าเป็นคู่รักพาร์ตไทม์?

อั้ม - "มีบ้างที่รู้สึกเบื่อ เพราะตั้งแต่แรกเราไม่มีจุดประสงค์หรือเจตนาที่ไม่ดีกับใคร ทำไมต้องมองเราในเจตนาอื่น ไม่เข้าใจ ทั้งที่ความรู้สึกที่เรามี เราไม่ได้ไปทำร้ายใคร"

- หลังเลิกพิ้งกี้ มีข่าวหันมาคบ นัท มีเรีย ตรงนี้เท็จจริงอย่างไร?

อั้ม - "กับคุณนัทรู้จักมานาน โดยผมรู้จัก พี่เต๋า-สมชาย มาก่อน และช่วงหลังมาสนิทกับคุณนัทมากขึ้น ได้ไปทำบุญ ฝากบุญกันอยู่เรื่อยๆ จริงๆ ผมไม่สามารถตอบอะไรได้ในตอนนี้เลยว่าต่อไปจะเป็นยังไง ไม่มีใครรู้อนาคต ตอนนี้ผมแฮปปี้กับชีวิตตรงนี้ กับผู้คนรอบข้าง ในวันหนึ่งผมก็อยากมีคนเข้ามาเป็นกำลังใจ ถ้าในวันหนึ่งที่ผมมีความชัดเจนมากพอ ผมก็จะตอบให้ฟัง"

- มุมมองความรักในวันนี้ วัยนี้ เป็นอย่างไรบ้าง?

อั้ม - "ความรักสำหรับผมยังคงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเรามีความรักที่ดี มีกำลังใจที่ดี ก็จะช่วยผลักดันให้เราทำในสิ่งที่ดีๆ ได้ และเราก็อยากเป็นคนดี มีความรับผิดชอบที่ดี เพื่อที่จะทำความรักของเราดี"

"ในวันหนึ่งถ้าเราได้เจอใครที่รู้สึกว่าเขาดี เรารักเขา และเขาพร้อมเป็นกำลังใจให้เรา เราก็ต้องพร้อมดูแลเขา ไม่ใช่ต้องเจอใครก่อนแล้วค่อยรู้สึกว่าพร้อม ในวันนี้เราต้องพร้อมกับตัวเองก่อน ต้องทำให้เรารู้สึกว่าเราดีก่อน ก่อนที่เราจะกล้าเอาคนดีคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต"

- มีอะไรอยากจะบอกไหม?

อั้ม - "ถ้าใครอยากจะถามเรื่องนี้กับผมอีก ผมขออนุญาตว่า ผมไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว ขออย่าได้ถามคนนู้นทีคนนี้ทีเพื่อที่จะให้เรื่องมันมีอะไรอีกเลย เพราะเวลาเราเจ็บ คนอื่นไม่ได้เจ็บ แต่เราต่างหากที่เป็นผู้รู้สึก เท่านี้ที่ผมอยากจะบอกครับ"

ความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่เจอกับตัวไม่รู้สึก

ยิ่งสูงยิ่งหนาว

ร่ายลีลาหนุ่มเจ้าสำราญในละคร "หน้ากากดอกซ่อน กลิ่น" ทางช่อง 3 ซะจนใครๆ หมั่นไส้ สำหรับพระเอกกล้ามปึ้ก "อั้ม-อธิชาติ" โดยละครเรื่องนี้ถูกมองว่าช่องหยิบมาออกอากาศเพื่อขัดตาทัพ สู้กับละครบู๊ฟอร์มยักษ์ "รุกฆาต" ทางช่อง 7

"ผมมองว่าทั้ง 2 เรื่องมันคนละฟอร์มกันครับ คนดูสามารถเลือกชมได้ตามความชอบ" อั้มเปิดฉากสนทนา

และอธิบายว่า "เรื่อง หน้ากากฯ เป็นละครดูเพลินๆ อมยิ้ม แอบตลกที่บทของเมจิ(พิมพ์อักษิพร) กับพี่เปิ้ล-จารุณี ส่วนบทของผมจะอยู่กับนุ่น-ศิรพันธ์ ซะส่วนใหญ่ นุ่นจะเป็นนางเอกที่ดูแมนๆ คอยพาผมหนีเวลาที่ถูกตามล่า ภาพในละครจะดูเหมือนนุ่นเป็นพระเอก ส่วนผมเป็นนางเอก" อั้มหัวเราะชอบใจ

นอกจาก "หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น" แล้ว อั้มยังมีแพลนละครอีกหลายเรื่อง ที่แน่นอนแล้วคือ "เพลิงบุญ"

โดยที่สัญญาของเขากับช่อง 3 หมดไปแล้วเมื่อมิ.ย.ที่ผ่านมา และเพิ่งเซ็นต่ออีก 3 ปีสดๆ ร้อนๆ

การเซ็นสัญญาต่อ หลายคนมองว่าช่อง 3 ให้รางวัลความภักดี ด้วยการผลักดันเขาสู่ตำแหน่งผู้จัดรายการ ประเดิมด้วย "ดิ ไอดอล โปรเจ็กต์ วัน"

แต่อั้มแย้ง "อย่าเรียกว่ารางวัลเลย เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีที่ช่อง 3 มอบโปรเจ็กต์นี้ให้ผมดูแล ผลิตในนามบริษัท ไว้ลาย โซไซตี้ จำกัด ซึ่งรายการจะแพร่ภาพครั้งแรกเสาร์ที่ 15 ส.ค.นี้ครับ"

งานแสดงล้นมือ แถมมีงานบริหารเข้ามาอีก กับภาระหน้าที่ที่โตขึ้น เขากล่าวว่า "ถือเป็นการฝึกตัวเอง ทำให้เรียนรู้สายงานบริหาร เริ่มจากการบริหาร ตัวเองให้ดีก่อน มีสติ รอบคอบ รู้จักตัวเอง ก่อนจะไปทำงานที่ต้องรับผิดชอบใครหลายๆ คนให้ดี ถามว่าพร้อมมั้ย ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะพร้อมเมื่อไหร่ แต่ถ้าคิดจะทำแล้วก็ลงมือทำเลย และอะไรที่คิด ว่ายังไม่พร้อมก็ต้องทำให้พร้อม ทำให้เต็มที่ครับ"

อย่างนี้เขาเรียก "ยิ่งสูงยิ่งหนาว" อั้มเห็นพ้อง "คงเป็นไปตามคำพูดนั้น แต่สำหรับผมในวันนี้ยังไม่รู้สึกว่าอยู่ในขั้นที่สูงหรือยังไม่ได้รู้สึกหนาวหรือว้าเหว่ แต่รู้สึกว่าเมื่อเราก้าวขึ้นไปเราต้องรับผิดชอบในความคาดหวัง มีความเสี่ยงในหลายด้านเยอะขึ้น โดยที่เราต้องไม่ลืมตัวเองว่า เราอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่"

"เมื่อเราพัฒนางาน เราก็ควรพัฒนาจิตใจข้างในไปด้วยครับ"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook