ป.ป.ช.ยันมติรถดับเพลิงส่งอสส. ไม่ฟ้องเตรียมฟ้องเอง7คนรวด

ป.ป.ช.ยันมติรถดับเพลิงส่งอสส. ไม่ฟ้องเตรียมฟ้องเอง7คนรวด

ป.ป.ช.ยันมติรถดับเพลิงส่งอสส. ไม่ฟ้องเตรียมฟ้องเอง7คนรวด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิชา มหาคุณ นัดคณะทำงานร่วมไต่สวนคดีทุจริตรถเรือดับเพลิง กทม.หารือทันที หลัง ชัยเกษม นิติสิริ ส่งแฟ้มสำนวนคืนกลับ เผยเตรียมยืนยันมติเดิมที่ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คน เผยถ้า อสส.ไม่ส่งฟ้อง ป.ป.ช.จะยื่นฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯเอง

นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานคณะทำงานร่วมไต่สวนคดีทุจริตการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง มูลค่า 6,687 ล้านบาท ของกรุงเทพมหานครกับบริษัท เดมเลอร์ พุค สเปเชี่ยล ฟาร์ซอย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดเตรียมส่งสำนวนคดีอาญาที่สอบข้อไม่สมบูรณ์ชัดเจนแล้ว กลับมาให้คณะทำงานร่วมยืนยันอีกครั้งว่า จะให้ฟ้องใครและไม่ฟ้องใคร และในความผิดใดบ้าง ว่า เมื่อทางอัยการสูงสุดติดใจ ตนจะนัดประชุมคณะทำงานร่วมทันทีในสัปดาห์หน้า เพื่อยืนยันมติเดิมที่ป.ป.ช.ได้ชี้มูลไปแล้ว เนื่องจากเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไมได้ ส่วนจะฟ้องใครบ้างก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของอัยการสูงสุด โดยป.ป.ช.จะดำเนินการฟ้องศาลเอง สำหรับผู้ถูกกล่าวหาที่อัยการสูงสุดมีความไม่ส่งฟ้อง เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีบางคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นไม่ส่งฟ้อง ป.ป.ช.ก็ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลด้วยตัวเอง

ส่วนการพิจารณาคดีทางแพ่งเพื่อขอยกเลิกสัญญานั้น นายวิชา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กทม.กับอัยการจะต้องไปดำเนินการเอง ไม่ได้อยู่ในอำนาจของป.ป.ช.แล้ว โดยก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารของกทม.ก็เคยมาทำหนังสือมาขอคำปรึกษา ซึ่งตนก็ทำหนังสือตอบกลับไปว่า ให้ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอยกเลิกสัญญา เมื่อถามว่า หากกทม.จ่ายค่างวดรถ-เรือดับเพลิง งวดที่ 6 มูลค่ากว่า 756 ล้านบาทในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะถือว่าผู้บริหารกทม.ชุดนี้เป็นผู้ร่วมกระทำผิด ฐานทำให้ราชการเสียหายหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงตอบไมได้

สำหรับผู้ถูกกล่าหาคดีนี้ที่ป.ป.ช.มีมติให้สั่งฟ้อง มีจำนวน 7 คน 1.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ว่าฯกทม. 2.นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม. 3.นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย 4.นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย 5.นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ 6.พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีต ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. และ 7.บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค จำกัด ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้ร้องเรียนคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า หากอัยการสูงสุดไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ จะยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบสวนนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่ เนื่องจากขั้นตอนตามกฎหมาย อัยการสูงสุดใช้ดุลพินิจเพียงสองแนวทางเท่านั้นคือฟ้องหรือไม่ฟ้องเท่านั้น ถ้าฟ้องก็ต้องส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป แต่ถ้าไม่ฟ้องส่งเรื่องกลับมาให้ ป.ป.ช.

"ผมเห็นว่า ความเสียหายในคดีนี้ เกิดขึ้นทุกวัน รถและเรือดับเพลิงที่ กทม.สั่งซื้อยังไม่สามารถนำออกไปใช้งานได้ ต้องทิ้งไว้ในโกดังเป็นเวลานานกว่าสามปีแล้ว กทม.เสียเงินงบประมาณให้กับบริษัทสไตเออร์ฯมาแล้วถึง 5 งวด ส่วนค่าภาษีและค่าปรับต่างๆ ยังคงค้างอยู่ราว 1,700 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทนามยงเทอร์มินอล ฟ้องร้อง กทม.เป็นเงินอีก 231ล้านบาทเนื่องจากรถดับเพลิงล็อตที่ 2 จำนวน 176 คันจอดทิ้งไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี"นายยุทธพงศ์กล่าว

สำหรับคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กทม.นั้น ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าว หาจำนวน 7 คน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 ป.ป.ช.ยื่นสำนวนคดีให้อัยการสูงสุดพิจารณาส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คน ประกอบด้วย
1.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)
2.นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม.
3.นายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
4.นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
5.นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
6.พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.
7.บริษัท สไตเออร์ฯ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ต่อมา วันที่ 24 ธันวาคม 2551 นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุดปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. อ้างว่ารายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงที่ ป.ป.ช.ส่งมานั้น อสส.พิจารณาแล้วยังมีข้อไม่สมบูรณ์พอที่จะยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ทั้งหมด 10 ประเด็น อาทิ ข้อไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับเอกสารภาษาต่างประเทศ ข้อไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับค่าเสียหายในการจัดซื้อ และข้อไม่สมบูรณ์เกี่ยวกับประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่องการค้าต่างตอบแทน ในหนังสือของนายวัยวุฒิ ระบุ อสส.ตั้งคณะทำงาน 8 คน เพื่อพิจารณาหลักฐานต่างๆ ที่ยังไม่สมบูรณ์ร่วมกับคณะทำงานของ ป.ป.ช. ซึ่งมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน

วันที่ 23 มีนาคม 2552 คณะทำงานร่วมสอบสวนเพิ่มเติมเสร็จสิ้น และมีมติให้ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 คน ต่อมาอัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณายื่นฟ้องร้องต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยมีนายวัยวุฒิ หล่อตระกูล เป็นประธานคณะทำงาน

วันที่ 3 มิถุนายน คณะทำงานร่วมที่มีนายวัยวุฒิ เป็นประธาน มีความเห็นให้ฟ้อง
วันที่ 31 กรกฎาคม นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ส่งสำนวนกลับไปให้ ป.ป.ช.
พร้อมแจ้งให้ ป.ป.ช.ระบุความเห็นของคณะทำงานร่วมที่ชัดเจนอีกครั้งว่าจะให้ฟ้องหรือไม่ฟ้องใครบ้างและความผิดใด

 

ภาพ : เนชั่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook