หลานสาวได้ค่าจ้าง 300 ช่วยน้าขนบุหรี่หนีภาษี อ่วมเจอโทษปรับ 15 ล้านบาท
(1 พ.ค.63) เวลา 18.00 น. ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง นายอิทธิพล เลียบใย นางสาวพัชรี เรืองไชย นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการสังกัดสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นายเจริญพงศ์ ศรีนิพัทธ์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปรามสรรพสามิตระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่รวม 13 นาย ได้ทำการจับกุมตัว นางพิสมัย (เสื้อสีชมพู) อายุ 53 ปี และ นางสมฤดี (เสื้อสีเขียว) อายุ 34 ปี ทั้ง 2 คนเป็นน้าหลานกัน พร้อมของกลาง บุหรี่หนีภาษี รวมทั้งหมด 37 ลังเศษ 1,892 แคทตอล 18,920 ซอง คิดเป็นเงินกว่า 200,000 บาทเศษ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบนำบุหรี่หนีภาษีมาจากประเทศกัมพูชาเข้ามาขายในประเทศไทยที่บริเวณห้องเช่าเลขที่ 8/22 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบ พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คนกำลังนำรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าง เข้าไปขนบุหรี่ที่อยู่ในสวนห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 10 เมตรเพื่อนำมาเก็บไว้ในห้องเช่าดังกล่าว และถูกจับกุมตัว จึงกล่าวหาว่าร่วมกันมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้า(บุหรี่) ที่มิได้เสียภาษี ตามมาตรา 204 พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พุทธศักราช 2560
นางพิสมัย เรี่ยมประการ รับสารภาพว่าได้สั่งซื้อบุหรี่หนีภาษีมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำมาครั้งนี้ครั้งที่ 2 ครั้งแรกสั่งซื้อเมื่อประมาณต้นเดือนที่ผ่านมา สั่งจำนวน 17 ลัง รวมๆ กันทุกยี่ห้อ เป็นเงิน 100,000 บาท ครั้งล่าสุดวันนี้สั่งจำนวน 15 ลัง เป็นเงิน 80,000 บาท ส่วน นางสมฤดี หลานสาว ตนได้วานจ้างให้ช่วยขนบุหรี่ไปไว้ในห้องเช่า ได้ค่าจ้าง 300 บาท เป็นค่าตอบแทน
นายอิทธิพล เลียบใย กล่าวว่าหลังจากที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบขนบุหรี่หนีภาษีมาจากเพื่อนบ้านเข้ามาซุกซ่อนในห้องเช่าเขต ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ทำการเข้าจับกุมตัว อัตราโทษปรับ 15 เท่าของค่าภาษี ปรับประมาณคนละ 15 ล้านบาทเศษ ได้นำของกลางไปเก็บไว้ที่สรรพสามิตจังหวัดระยอง ส่วนตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนส่ง ร้อยตำรวจเอกขวัญชัย นัมคณิสรณ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองระยองดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป