อัศวิน ระบุผู้ต้องหาคดียิงสนธิมีสิทธิฟ้อง

อัศวิน ระบุผู้ต้องหาคดียิงสนธิมีสิทธิฟ้อง

อัศวิน ระบุผู้ต้องหาคดียิงสนธิมีสิทธิฟ้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัศวิน ระบุผู้ต้องหาคดีลอบฆ่า สนธิ มีสิทธิฟ้องพนักงานสอบสวนได้ แต่เชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มี เอาตัวเองเป็นประกันจากหลักฐานผู้ต้องหาผิดจริง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) วันที่ 3 สิงหาคม พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่านายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฟ้องพนักงานสอบสวนในคดีว่า เขาคงฟ้องพนักงานสอบสวนซึ่งมีพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร.และพ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล รองผบก.น. ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่เขาจะทำได้ แต่สังคมจะเชื่อหรือไม่เป็นอีกส่วนหนึ่ง ศาลก็คงจะพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับ อยากฝากบอกเขาผ่านสื่อว่าให้เขาเข้ามอบตัวหาทางต่อสู้คดี เป็นนักมวยต้องขึ้นเวลทีชกต้องสู้ด้วยตัวเองไม่ใช่เต้นอยู่นอกเวที

เมื่อถามว่าเชื่อมั่นในหลักฐานที่มีอยู่จะเอาผิดผู้ต้องหาได้หรือไม่ พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า ผู้ที่ต้องหาในคดีให้ศาลเป็นผู้พิจารณาชี้ดีกว่าว่าผิดหรือไม่ผิด ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน ผู้ต้องหาโดยธรรมชาติก็ต้องอ้างแหล่งที่อยู่เพื่อที่จะเอาตัวรอดหาหลักฐานอ้างอยู่ตรงนั้นตรงนี้ เราไม่ว่ากัน ไม่ตำหนิติเตียน เป็นธรรมชาติของการต่อสู้คดีฝ่ายหนึ่งว่าผิดอีกฝ่ายว่าไม่ผิด แต่ยืนยันว่าจะจับกุมเพราะเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ การที่เขาอ้างถิ่นที่อยู่ว่าไปทอดกฐินหรือผ้าป่า ก็เชื่อว่าไม่มีใครทอดกฐินผ้าป่าตอนตีสี่

"พยานหลักฐานที่มีเยอะเพียงพอที่ออกหมายจับได้ เมื่อศาลกรุณาออกหมายจับก็เชื่อว่าเขาผิดจริง ซึ่งผมเอาตัวเองรับประกันได้ แต่เมื่อขึ้นถึงชั้นศาลแล้วคดีจะถูกยกฟ้องหรือไม่ตรงนั้นไม่มีใครตอบได้ว่าผู้ต้องหาจะหลุดคดีหรือจะติดคุกเพราะอยู่ในดุลยพินิจของศาล กระบวนการยุติธรรมไม่ได้อยู่ที่ตำรวจอย่างเดียวต้องส่งไปอัยการซึ่งอาจมีความเห็นต่างจากตำรวจก็ได้ เมื่อขึ้นถึงศาลก็อยู่ในดุลยพินิจของศาล"ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าว

เมื่อถามว่าคิดว่ามีใครหนุนหลังให้ผู้ต้องหาออกมาฟ้องร้องหรือไม่ พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบรายละเอียด คงเป็นการหารือกับทนายความ แต่อยากให้ข้อสังเกตุถ้าเขาคิดว่าการฟ้องพล.ต.อ.ธานี และพ.ต.อ.วิชาญ ในฐานะพนักงานสอบสวน ขอเรียนว่าพนักงานสอบสวนไม่สามารถที่จะออกหมายจับเองได้ ต้องรวบรวมพยานหลักฐานไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล วัตถุหรือพยานเอกสารนำเสนอต่อศาลเพื่อยื่นขออนุมัติออกหมายจับ ซึ่งศาลเป็นผู้พิจารณาว่าหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับหรือไม่ ในเมื่อศาลอนุมัติหลักฐานก็คงพอ ต้นสังกัดก็คงสืบสวนพอสมควรเช่นเดียวกันถึงให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.ต.อ.ธานี เหมือนกำหนดชัดเจนว่าให้คดีเสร็จก่อนเกษียณอายุราชการ แต่นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่อยากให้มีการกำหนดกรอบเวลา พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า นายกฯพูดถูกต้อง ว่าไม่ได้กำหนดให้ทำคดีเสร็จเมื่อไหร่ แต่พล.ต.อ.ธานี อยากให้ทำห็เสร็จก่อนเกษียน พนักงานสอบสวนก็จะเร่งทำให้เร็วที่สุด ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ กำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ต้องขอเวลาอีกสักระยะหนึ่งซึ่งผู้ต้องหาที่เตรียมจอออกหมายจีบจะมากหรือน้อยกว่าสามคนก็ได้ ตอนนี้ยังไม่ได้ขออนุมัติหมายจับไปยังศาลเพราะหลักฐานยังไม่เพียงพอ ถ้าจะขอต้องมั่นใจว่าได้หมายจับร้อยเปอร์เซ็น ถ้าไม่แน่ใจเราก็ยังไม่ขอ

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องผบ.ตร.จะอยู่หรือจะไปนั้นสำหรับตนเองนั้นมีค่าเท่ากันผบ.ตร.อยู่ตนเองก็ทำคดีผบ.ตร.ไม่อยู่ตนเองก็ทำคดี อยากจะบอกว่าผบ.ตร.ไม่เป็นปัญหาในการทำคดีว่าได้หรือไม่ได้ ท่านอยู่ก็ทำได้ ไม่อยู่ก็ทำได้ ไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไรสำหรับผม ส่วนใครคิดว่าเป็นอุปสรรคก็ไปถามคนนั้น ท่านก็เคยเรียกไปให้เงินเพื่อทำการสืบสวนสอบสวน สอบถามว่าเงินที่ไปทำการสืบสวนสอบสวนพอหรือเปล่าไม่เคยมีปัญหา ขอให้ใจเย็นขอเวลาให้ทำงานก่อน ขณะนี้อยากได้ตัวผู้ลงมือที่นั่งรถกระบะ 2 คันมายิงก่อนยังไม่ก้าวล่วงไปถึงผู้เกี่ยวข้องส่วนอื่นเพราะตัวผู้ปฏิบัติหรือลงมือยังจับตัวไม่ได้ตัวเลยจะจับผู้จ้างวานหรือผู้เกี่ยวข้องอื่นคงไม่ได้มันเป็นหลักของกฎหมายเลย

ผู้สื่อข่าวถามความคิดเห็นเรื่องการนำคดีนายสนธิมาขเย่าตำแหน่งผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนขอไม่ออกความคิดเห็น ขอทำคดีให้ดีที่สุดเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook