จากใจหมอจุฬาฯ เคสน้อยลงแต่อย่าประมาท ชี้หากระบาดอีกรอบ ไม่มีงบรักษาแล้ว
จากกรณี ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. มีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนปรนให้มีมาตรฐานกลางบางกิจการและกิจกรรม เช่น แผงลอย หาบแร่ กิจกรรม เช่น การออกกำลังกายในสวนสาธารณะ โดย ศบค. จะกำหนดมาตรฐานกลาง และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และ ผู้ว่าฯ กทม. กำหนดรายละเอียดต่อไป โดยสามารถกำหนดความเข้มข้น มากกว่าระดับมาตรฐานกลางได้ แต่น้อยกว่ามาตรฐานกลางไม่ได้ และต้องมีแนวทางดำเนินการที่คำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก และสังคม-เศรษฐกิจตามมา
ทั้งนี้ การยึดถือข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 1 ข้อ 11 เช่น การทำความสะอาดพื้นผิวสถานที่ที่เกี่ยวข้อง การใส่หน้ากากผ้า การล้างมือ การรักษาระยะห่าง 1 เมตร มีแอปพลิเคชั่นตามตัว
ทางด้าน ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Opass Putcharoen เกี่ยวกับมาตรการผ่อนปรนและสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ ว่า
"ตอนนี้เคสน้อยลงเรื่อยๆ และรัฐบาลกำลังผ่อนคลายกลับมาเปิดให้ทำกิจกรรมบางอย่างที่จำเป็นมากขึ้น แต่ก็ต้องเดินมาตรการไปด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่ เพราะเราได้บทเรียนจากประเทศต่างๆ ที่ทยอยเปิดเมืองแล้วมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก
ฝ่ายที่ทำการรักษาก็ยังคงเตรียมความพร้อมไว้ตลอด เราไม่อยากให้การระบาดกลับมามีผลกระทบเป็นวงกว้าง เราไม่อยากเห็นภาพคนต้องมานอนโอซียูเป็นจำนวนมากๆอีก ที่สำคัญคือรอบนี้เราอาจไม่ได้มีงบประมาณพอที่จะใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลที่มีมูลค่าสูงอีกแล้ว ควรเก็บงบประมาณไว้สำหรับการเยียวยาและผลักดันด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด
ดังนั้นต้องช่วยกันอยู่ในระเบียบวินัยการป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด เมื่อไหร่ที่เราลืม เมื่อนั้นการระบาดจะกลับมาอย่างรวดเร็ว"