ครอบครัวคาใจ "พลทหาร" ดับปริศนาในค่าย พบสารยาฆ่าหญ้าในกระเพาะอาหาร
ครอบครัวคาใจ "พลทหาร" เสียชีวิตปริศนาในค่ายทหารเรือ ผลชันสูตรออกมาพบว่ามีสารยาฆ่าหญ้าในกระเพาะอาหาร วอนหน่วยงานต้นสังกัดชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (2 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเนินสะอาด อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ พลทหาร เจษฏากร หรือ ก็อต อายุ 21 ปี สังกัดกองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเสียชีวิตอย่างปริศนาภายในค่ายทหาร เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยทางญาติได้เดินทางไปติดต่อขอรับศพเพื่อนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.พิษณุโลก
ซึ่งญาติพี่น้องที่ทราบข่าวต่างรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังหนุ่มยังแน่นและเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวในอนาคต แต่กลับมาเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำโดยไร้ข้อชี้แจงใดๆ จากต้นสังกัด และไม่มีผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนทหารเดินทางมาร่วมเคารพศพเป็นครั้งสุดท้ายแม้แต่นายเดียว
นอกจากนี้ ผลชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์ยังระบุอีกว่าระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว พบสารยาฆ่าหญ้าในกระเพาะอาหาร สร้างความเคลือบแคลงใจในสาเหตุการตายให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตายอีกด้วย
ด้าน นายสาคร และ นางพยอม พ่อและแม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า นายเจษฏากร บุตรชาย หลังเกณฑ์ทหารได้ไปประจำการเป็นพลทหารเรือ ที่กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 2 ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ประมาณ 9 เดือนแล้ว ในวันเกิดเหตุทราบว่าหลังลูกชายออกเวรช่วงดึกได้ชักชวนเพื่อนพลทหารด้วยกันไปทำอาหารกิน เมื่อกินเสร็จจึงแยกย้ายเข้าโรงนอน
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะลูกชายมีอาหารชักน้ำลายฟูมปากอยู่บนที่นอน เพื่อนๆ จึงรีบเข้ามาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็ยื้อชีวิตเอาไว้ไม่ได้ ส่วนผลชันสูตรออกมาพบว่ามีสารยาฆ่าหญ้าในกระเพาะอาหาร ร่างกายไม่มีร่องรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้าย จึงไม่เชื่อว่าลูกชายจะกินยาฆ่าตัวตายเอง เพราะเพิ่งจะคุยกับแฟนสาวทางโทรศัพท์ก็ปกติดีทุกอย่าง
ส่วนเรื่องในค่ายทหารลูกชายก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง และหน่วยงานต้นสังกัดก็ไม่ได้ชี้แจงถึงสาเหตุการตายในครั้งนี้อย่างชัดเจน ขณะที่ศพกลับมาถึงบ้านเกิดก็ไม่มีผู้บังคับบัญชามาร่วมงานเพื่อแสดงความเสียใจใดๆ เลย พร้อมทั้งได้ตั้งศพสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืน กำหนดฌาปนกิจศพในวันนี้
แต่เนื่องจากทางครอบครัวปรึกษากันแล้วว่าลูกชายเสียชีวิตอย่างปริศนา จึงยังไม่ทำการเผาศพแต่อย่างใด ก่อนนำร่างส่งผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช
ขณะที่ นายสุวิทย์ พี่เขยของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายเจษฏากร น้องชาย ไปทำหน้าที่รับใช้ชาติอย่างสมเกียรติ เป็นความภูมิใจของครอบครัว แต่กลับมาเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในค่ายทหาร แค่นี้ทางครอบครัวก็ปวดร้าวมากพอแล้ว
แต่ทางต้นสังกัดกลับนิ่งเฉยไม่ดูดำดูดีแม้แต่น้อย ไม่ส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมแสดงความอาลัยศพน้องชายเลย จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนให้กับน้องชายตนเองด้วย