รองโฆษกพลังประชารัฐย้อน "ธนาธร" วิจารณ์รัฐแจกเงิน สุดท้ายทำเอง
“ทิพานันท์” ย้อนถาม “ธนาธร” กลืนน้ำลาย วิจารณ์รัฐแจกเงินสุดท้ายทำเอง
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีคณะก้าวหน้า โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแกนนำจัดคอนเสิร์ตระดมทุนเพื่อนำเงินมาบริจาคให้กับประชาชนรายละ 3,000 บาท ว่า เรื่องนี้ทำให้สังคมมองเห็นว่าสิ่งที่นายธนาธรทำนั้น มักเป็นสิ่งที่เคยวิจารณ์ผู้อื่นว่าทำไม่ดีมาก่อน แต่สุดท้ายนายธนาธร กลับลอกเลียนวิธีการและทำแบบนั้นเสียเอง และนายธนาธรยัง เอาหน้าโดยไม่ลงทุนเพราะแจกเงินเฉพาะที่ตนเองได้รับบริจาคมาเท่านั้น ไม่ปรากฏยอดบริจาคจากนายธนาธร แม้แต่เพียงบาทเดียว นายธนาธร กำลังกลืนน้ำลายตัวเอง จำสิ่งที่ตนเองวิจารณ์ไม่ได้เลย ทำทุกอย่างตามที่เคยได้วิจารณ์ผู้อื่นไว้
นายธนาธร วิจารณ์ว่าการลงทะเบียนรับสิทธิ์ของรัฐบาลเป็นการกีดกั้นผู้ที่ไม่เข้าถึงอินเตอร์เน็ต แต่สุดท้ายนายธนาธรกลับกีดกั้นและสร้างความเหลื่อมล้ำเสียเอง แจกเงินเฉพาะผู้ที่เข้าถึงเฟซบุ๊กเพจคณะก้าวหน้า นายธนาธร วิจารณ์ว่ารัฐบาลช่วยเหลือประชาชนไม่ทั่วถึง แต่สุดท้ายนายธนาธรก็แจกเงินไม่ทั่วถึงเช่นกันเพราะวันแรกแจกเพียง 351 คนและเมื่อวานนี้ (วันที 2 พ.ค.) ก็มีคนหลักล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือจากนายธนาธร
นอกจากนี้ ระบบคัดกรองผู้ได้รับการช่วยเหลือจากนายธนาธรก็อาจไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความเท่าเทียม ผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ จะได้เฉพาะผู้ที่มีความว่องไว ลงทะเบียนก่อน เข้าถึงอินเตอร์เน็ต และติดตามเฟซบุ๊ก กีดกันโอกาสผู้สูงอายุ คนรากหญ้า คนทำงานที่ไม่สามารถเข้าถึงเฟซบุ๊กในเวลานั้นเพราะต้องทำงาน ไม่มีมือถือสมาร์ทโฟน ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้
น.ส.ทิพานัน ยังกล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมาปลุกให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลว่า นายปิยบุตร ยังคงเป็นนักฉกฉวยโอกาสในวิกฤติ ด้วยการแสดงความเห็นในลักษณะของการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งเพราะทนไม่ได้ที่เห็นผลงานในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลเป็นที่พึงพอใจของประชาชนและเป็นที่ชื่นชมของต่างชาติ รวมถึงเป็นประเทศที่มีมาตรการด้านสุขภาพที่ดีที่ทำให้ นายปิยบุตร สามารถอยู่แล้วปลอดภัย ไม่ติดเชื้อ นายปิยบุตร เองก็ทราบดีว่ามาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดต่างๆ แม้แต่ในประเทศโลกประชาธิปไตยอย่างฝรั่งเศสที่นายปิยบุตรมักพร่ำพูดถึงตลอดเวลานั้นก็ยังประกาศล็อกดาวน์ประเทศ ประชาชนยังจำเป็นต้องเสียสละเสรีภาพ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับที่รุนแรง ในขณะที่ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก หากนายปิยบุตรมีจิตสำนึกเพื่อประเทศชาติและส่วนรวมสักนิด จะไม่นำความคับแค้นทางการเมืองส่วนตัว มาหาช่องเพื่อชี้นำประชาชน นำสุขภาพของประชาชนมาเสี่ยงเพื่อให้กลุ่มของตัวเองได้ประโยชน์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วงชิงอำนาจในเวลาที่หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นายปิยบุตร ควรตื่นเสียที ว่าโลกยุคโควิด-19 มันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การเมืองก็ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย เป็น New Normal การเมืองวิถีใหม่ ที่สร้างสรรค์ ในการช่วยกันฝ่าฟันวิกฤติ ไม่แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ไม่จ้องทำลาย หากนายปิยบุตรมัวแต่อยู่ในห้องแอร์ กลัวการติดเชื้อโรคจึงไม่ออกไปพบปะ รับฟัง ให้ความช่วยเหลือประชาชนในชุมชน ก็ควรอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่เชื้อโรคและควรใช้เวลาหมั่นดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของตนเองและผู้ใกล้ชิดให้ปลอดภัย และหมั่นทำกิจกรรมเพื่อบำรุงสมองและความจำของตนเองและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นการกลืนน้ำลายตัวเอง ทำทุกอย่างที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น