เรือนจำสว่างแดนดิน ตอบชัดๆ ปมนักโทษหลบหนี ไม่มีใครมารับ-ไม่ได้ถูกผู้คุมทำร้าย
จากกรณีที่นักโทษชายคดียาเสพติด เรือนจำสว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร หลบหนีจากเรือนจำ ซึ่งเป็นอยู่ในช่วงแรกเข้า จึงถูกควบคุมตัวในอาคารกักตัว 14 วัน ตามมาตรการป้องกันเชื้อโควิด 19 แต่ได้เจาะฝ้าเพดานออกไปด้านนอก แล้วใช้ผ้าเต๊นท์พาดกำแพงเรือนจำหลบหนีออกจากเรือนจำ จำนวน 5 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30.น วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คจำนวนในช่วงเช้าจึงทราบว่าผู้ต้องขังหลบหนีไป
ต่อมาในวันที่ 2 พ.ค.63 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายภานุพงษ์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มผู้ต้องขังที่หลบหนีออกจากเรือนจำสว่างแดนดิน โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลคำตากล้า ห่างจาก สภ.คำตากล้า ประมาณ 2 กิโล
โดยในวันนี้ (3 พ.ค. 63) พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ได้ลงพื้นที่ร่วมกันบัญชาการประเมินสถานการณ์ ที่ศูนย์บัญชาการไล่ล่าผู้ต้องขังที่หลบหนี ภายใน สภ.คำตากล้า สำหรับผู้ต้องขังเหลือเจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าจับกุม หากผู้ใดพบเบาแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 ได้นำสุนัขสงครามพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สนับสนุนภารกิจสะกดรอยการไล่ล่าผู้ต้องขังที่หลบหนีครั้งนี้ด้วย
ล่าสุดเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องขังชื่อ นายพัฒพงษ์ อายุ 32 ปี ถูกจับกุมคดียาบ้า 30 เม็ด หนึ่งในผู้ต้องขังที่หลบหนีออกจากเรือนจำ ญาติได้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ผู้ต้องขังเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปรับที่บ้านพัก โดยญาติได้เดินทางมาส่งผู้ต้องขังพร้อมเจ้าหน้าที่ด้วย เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่กดดันไล่ล่าอย่างหนัก ทางญาติจึงได้เกลี้ยกล่อมให้เข้ามามอบตัวดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องขังที่หลบหนีอยู่อีก 3 ราย
นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน กล่าวว่า ขออนุญาตให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ผู้ต้องขังทั้ง 5 รายไม่ได้มีใครมารอรับที่หน้าเรือนนจำตอนที่หลบหนี แต่เป็นการเดินเท้าไปยังจุดที่จะหลบหนี สำหรับห้องที่ใช้ควบคุมเราใช้ห้องที่เราสร้างพิเศษขึ้นมาสำหรับการควบคุม ไม่ได้ใช้ห้องสมุดของเรือนจำ เนื่องจากมีบางสื่อไปนำเสนอข่าวภาพที่นอนหมอนมุ้งในห้องสมุด และไปทำภาพอนิเมชั่นที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ผู้ต้องขังยังอยู่ในชั้นฝากขังของศาลและรอกักตัวสังเกตอาการคัดกรองโควิด-19 14 วัน
บางสื่อไปสัมภาษณ์ญาติของผู้ต้องขัง ว่าการหลบหนีเกิดจากการทำร้ายของผู้คุม ซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากผู้ต้องขังกลุ่มนี้เข้ามาเมื่อวันที่ 14-15 เมษายน 2563 และยังอยู่ในช่วงกักตัว ไม่ได้อนุญาตให้ญาติเข้ามาเยี่ยมแต่อย่างใด หากผู้ต้องขังกลุ่มนี้อยู่ในเรือนนอนปกติจะไม่สามารถหลบหนีได้อย่างแน่นอน รายละเอียดบางส่วนขออนุญาตไม่เปิดเผย ทางเรือนจำ ตำรวจ และฝ่ายปกครองจะขยายผลในภายหลัง ฝากสื่อต่างๆ แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องและระมัดระวังด้วย เพราะจะทำให้ทางกรมราชทัณฑ์เสียหาย