เรือนจำสว่างแดนดิน ตอบชัดๆ ปมนักโทษหลบหนี ไม่มีใครมารับ-ไม่ได้ถูกผู้คุมทำร้าย

เรือนจำสว่างแดนดิน ตอบชัดๆ ปมนักโทษหลบหนี ไม่มีใครมารับ-ไม่ได้ถูกผู้คุมทำร้าย

เรือนจำสว่างแดนดิน ตอบชัดๆ ปมนักโทษหลบหนี ไม่มีใครมารับ-ไม่ได้ถูกผู้คุมทำร้าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่นักโทษชายคดียาเสพติด เรือนจำสว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร หลบหนีจากเรือนจำ ซึ่งเป็นอยู่ในช่วงแรกเข้า จึงถูกควบคุมตัวในอาคารกักตัว 14 วัน ตามมาตรการป้องกันเชื้อโควิด 19 แต่ได้เจาะฝ้าเพดานออกไปด้านนอก แล้วใช้ผ้าเต๊นท์พาดกำแพงเรือนจำหลบหนีออกจากเรือนจำ จำนวน 5 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30.น วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คจำนวนในช่วงเช้าจึงทราบว่าผู้ต้องขังหลบหนีไป

ต่อมาในวันที่ 2 พ.ค.63 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายภานุพงษ์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มผู้ต้องขังที่หลบหนีออกจากเรือนจำสว่างแดนดิน  โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลคำตากล้า ห่างจาก สภ.คำตากล้า ประมาณ 2 กิโล      

โดยในวันนี้ (3 พ.ค. 63)  พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร  ได้ลงพื้นที่ร่วมกันบัญชาการประเมินสถานการณ์  ที่ศูนย์บัญชาการไล่ล่าผู้ต้องขังที่หลบหนี ภายใน สภ.คำตากล้า สำหรับผู้ต้องขังเหลือเจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าจับกุม หากผู้ใดพบเบาแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้  พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 ได้นำสุนัขสงครามพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สนับสนุนภารกิจสะกดรอยการไล่ล่าผู้ต้องขังที่หลบหนีครั้งนี้ด้วย       

ล่าสุดเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องขังชื่อ นายพัฒพงษ์ อายุ 32 ปี ถูกจับกุมคดียาบ้า 30 เม็ด หนึ่งในผู้ต้องขังที่หลบหนีออกจากเรือนจำ ญาติได้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ผู้ต้องขังเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปรับที่บ้านพัก โดยญาติได้เดินทางมาส่งผู้ต้องขังพร้อมเจ้าหน้าที่ด้วย เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่กดดันไล่ล่าอย่างหนัก ทางญาติจึงได้เกลี้ยกล่อมให้เข้ามามอบตัวดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องขังที่หลบหนีอยู่อีก 3 ราย

ผู้ต้องขังมอบตัวอีก 1 ราย

นายอรรถสิทธิ์ ทองแสง ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน กล่าวว่า  ขออนุญาตให้ข้อมูลข้อเท็จจริง ผู้ต้องขังทั้ง 5 รายไม่ได้มีใครมารอรับที่หน้าเรือนนจำตอนที่หลบหนี  แต่เป็นการเดินเท้าไปยังจุดที่จะหลบหนี  สำหรับห้องที่ใช้ควบคุมเราใช้ห้องที่เราสร้างพิเศษขึ้นมาสำหรับการควบคุม ไม่ได้ใช้ห้องสมุดของเรือนจำ เนื่องจากมีบางสื่อไปนำเสนอข่าวภาพที่นอนหมอนมุ้งในห้องสมุด และไปทำภาพอนิเมชั่นที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง  ผู้ต้องขังยังอยู่ในชั้นฝากขังของศาลและรอกักตัวสังเกตอาการคัดกรองโควิด-19 14 วัน 

บางสื่อไปสัมภาษณ์ญาติของผู้ต้องขัง ว่าการหลบหนีเกิดจากการทำร้ายของผู้คุม ซึ่งไม่เป็นความจริง  เนื่องจากผู้ต้องขังกลุ่มนี้เข้ามาเมื่อวันที่ 14-15 เมษายน 2563 และยังอยู่ในช่วงกักตัว ไม่ได้อนุญาตให้ญาติเข้ามาเยี่ยมแต่อย่างใด หากผู้ต้องขังกลุ่มนี้อยู่ในเรือนนอนปกติจะไม่สามารถหลบหนีได้อย่างแน่นอน รายละเอียดบางส่วนขออนุญาตไม่เปิดเผย  ทางเรือนจำ ตำรวจ และฝ่ายปกครองจะขยายผลในภายหลัง ฝากสื่อต่างๆ แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องและระมัดระวังด้วย เพราะจะทำให้ทางกรมราชทัณฑ์เสียหาย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook