ทำเก๋!! ให้ หมาแพนดี้ โปรโมท หมีแพนด้า-ขายไปรษณียบัตร

ทำเก๋!! ให้ หมาแพนดี้ โปรโมท หมีแพนด้า-ขายไปรษณียบัตร

ทำเก๋!! ให้ หมาแพนดี้ โปรโมท หมีแพนด้า-ขายไปรษณียบัตร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปิดโหวตชื่อแพนด้าน้อยวันนี้ ก่อนประกาศชื่อที่ได้รับเลือกมากที่สุด 10 ส.ค. ไปรษณียบัตรโหวตชื่อแพนด้าน้อย ขายแล้ว 26 ล้านฉบับ จากที่ทำ 30 ล้านฉบับ ส่งมานับแล้ว 16 ล้านฉบับ คัดแยกแล้ว 12 ล้านฉบับ ชื่อ "หลินปิง" นำโด่ง รองลงมาคือ "ขวัญไทย" "หญิงหญิง" "ไทจีน" ไปรษณีย์เชียงรายทำเก๋ เอา "เจ้าแพนด้า" หมาที่มีขนขาวดำเหมือนแพนด้าน้อย มารณรงค์ให้คนซื้อไปรษ ณียบัตรร่วมโหวต เผยเป็นของแม่ค้าข้าวแกงอายุแค่ 3 เดือนเศษ อ่อนกว่าแพนด้าน้อยแค่ 2 วัน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ส.ค. ส.พญ.กรร ณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวแพนด้าสวนสัตว์เชียงใหม่ รายงานการติดตามพัฒนาการลูกแพนด้า อายุ 68 วันว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาหลินฮุ่ยและลูกแยกกันนอนมากขึ้น หลินฮุ่ยจะอุ้มลูกเฉพาะช่วงที่ให้ลูกกินนม และเลียกระตุ้นให้ขับถ่าย การที่ลูกหมีนอนเองตามลำพังมากขึ้น เป็นพัฒนาที่ดีในการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงลูกของหลินฮุ่ย จากการสังเกตพบว่าเปลี่ยนแปลงตามอายุและพัฒนาการของร่างกายลูก คือระยะแรกที่ลูกแพนด้ายังตัวเล็ก มองเห็นผิวสีชมพู มีขนสีขาวบางๆ หลินฮุ่ยจะอุ้มลูกตลอดเวลา ใช้แขนปิดลูกไว้มิดชิดและไม่ยอมวาง พอลูกเริ่มมีขนยาวและหนาขึ้นจะเริ่มคลายมือให้มองเห็นลูกบ้างแต่ก็ยังไม่วางลูกที่พื้น

และเมื่อลูกมีขนหนาขึ้นมากและเริ่มมีขนสีดำตามตำแหน่งหู ตา ขาและไหล่ หลินฮุ่ยจะวางที่พื้นบ้างขณะที่นอนหลับ แต่จะยังคงนอนใกล้ชิดกันตลอดและพอตื่นจะรีบอุ้มไว้ที่อ้อมอก แต่ส่วนใหญ่จะยังคงอุ้มลูกตลอด และระยะที่ลูกมีขนยาวหนาปุกปุย ลืมตา และใช้ขาดันไปตามพื้นได้ หลินฮุ่ยจะให้ลูกนอนที่พื้นมากขึ้น และแยกกันนอนเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ลูกได้พัฒนาด้านการคลาน การเดิน และการที่ลูกเริ่มมองเห็นจะอยู่ในช่วงเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น ส่วนการนำของเล่นให้กับแพนด้านั้น พบว่าช่วงเวลาเดิมที่ให้ของเล่นคือเวลา 13.00-15.00 น. เป็นช่วงที่ลูกแพนด้าต้องการนอนพักผ่อนหลังจากกินนม จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาใหม่ ในการให้ของเล่น เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการพักผ่อนของลูกแพนด้า

วันเดียวกัน ว่าที่ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณ ฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศฯ กล่าวระหว่างเดินทางไปเยี่ยมสวนสัตว์เชียงใหม่ว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากไปรษณีย์ว่า ได้จำหน่ายไปรษณียบัตรทายชื่อแพนด้าน้อยไปแล้ว 26 ล้านฉบับ จากที่ทำไว้ 30 ล้านฉบับ และจะแบ่งเงินรายได้ให้สวนสัตว์เชียงใหม่ฉบับละ 2 บาท เพื่อเก็บไว้ทำประโยชน์ต่างๆ ซึ่งตนก็ซื้อ 1,000 ฉบับ แต่จะแจกให้เจ้าหน้าที่และน้องๆ ในกระทรวงเป็นผู้ลงชื่อโหวต และจะนำไปรษณียบัตรที่ไม่ใช้ประโยชน์แล้ว ไปประมูลขายคาดว่าจะมีมูลค่าทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท

ด้านนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กก.ผจก.ใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ไปรษณียบัตรโหวตชื่อแพนด้าน้อยจากที่ทำไว้ 30 ล้านฉบับ จำหน่ายไปแล้ว 26 ล้านฉบับ ที่ส่งมาตรวจนับแล้ว 16 ล้านฉบับ คัดแยกไปแล้ว 12 ล้านฉบับ ปรากฏว่าชื่อ "หลินปิง" มีคนโหวตเป็นอันดับ 1 จำนวน 8 ล้านฉบับ รองลงมาตามลำดับคือ "ขวัญไทย" "หญิงหญิง" "ไทจีน"

อย่างไรก็ตาม มีไปรษณียบัตรที่เสียคือมีการขีดฆ่าและนำชื่อเขียนลงกระดาษมาติด หรือวาดการ์ตูนรูปแพนด้าน้อยลงไป ก็ถือว่าเสียทั้งหมด เพราะป้องกันไม่ให้คนอื่นนำไปปรับแก้เป็นชื่อของ ตัวเอง ซึ่งพบว่าไปรษณียบัตรที่เสีย 2 แสนฉบับ และในอนาคตจะทำโปสการ์ดรูปแพนด้าน่ารักจำหน่ายตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่อไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการโหวตชื่อแพน ด้าน้อยนั้น จะปิดรับในวันที่ 5 ส.ค.เป็นวันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการคัดเลือก และประกาศชื่อที่ได้รับเลือกมากที่สุดในวันที่ 10 ส.ค. และจะประกาศชื่อผู้โชคดีจากกองรายชื่อที่มีผู้โหวตเข้ามามากที่สุด เพื่อได้รับรางวัลชนะเลิศ ในวันที่ 12 ส.ค.

ส่วนที่จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนัก งานไปรษณีย์สาขาเชียงราย จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนซื้อไปรษณียบัตร เพื่อส่งไปร่วมโหวตชื่อแพนด้าน้อย โดยการรณ รงค์ครั้งนี้ได้ใช้ลูกสุนัขเพศเมียชื่อ "แพนด้า" วัย 3 เดือนเศษ มีรูปร่างลักษณะขนปุยและสีสันคล้ายแพนด้าเป็นตัวชูโรงในการรณรงค์ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำเจ้าแพนด้าอุ้มใส่รถบรรทุกไปกับรถกระจายเสียง รวมทั้งพาไปพบปะกับประชาชน โดยเฉพาะนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ เมื่อมีการตั้งโต๊ะจำหน่าย

สำหรับลูกสุนัขดังกล่าวเป็นของนางมาลี วงษารัตน์ อายุ 40 ปี แม่ค้าร้านขายข้าวแกงหน้าวัดพระนอน อยู่เลขที่ 404/4 หมู่ 12 ชุมชนหนอง บัว เทศบาลนครเชียงราย นางมาลีกล่าวว่า เจ้าแพนด้ามีอายุได้ราว 3 เดือนเศษ อายุน้อยกว่าแพนด้าน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ 2 วัน สภาพร่างกายแข็งแรง มีน้ำหนักมากกว่า 4 ก.ก. ส่วนที่เหมือนแพนด้าคือ ที่ตัวมีขนสีขาว ดวงตาเป็นสีดำทั้งสองข้าง เหมือนกับเท้า หาง ลำตัว จึงเรียกว่าเจ้าแพนด้าตั้งแต่แรกเกิด กระทั่งเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไปพบจึงยืมไปใช้รณรงค์ดังกล่าว

นายนวย ไชยคำ ผู้ช่วยหัวหน้าไปรษณีย์ จ.เชียงราย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะเร่งจำหน่ายไปรษณียบัตรให้หมดในช่วงสุดท้าย ก่อนที่จะ ปิดรับการโหวตชื่อลูกแพนด้าน้อย ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะจำหน่ายได้อีกมาก เพราะเจ้าแพนด้ามีสีสันคล้ายกับหมีแพนด้ามาก จนทำให้ประชาชนสนใจเข้าไปดูชมและซื้อไปรษณีย บัตรในที่สุด ปัจจุบันประชาชนสามารถไปดูเจ้าแพนด้า และใช้บริการหรือเลือกซื้อไปรษณียบัตรได้ที่สำนักงานไปรษณีย์ จ.เชียงราย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook