กรมควบคุมโรคสั่ง 64 ด่านจับ หนู ตรวจหมัด
สธ.เผยเพื่อหาเชื้อ กาฬโรคปอด ชี้เนื้อหนูไม่มีเชื้อ รอสัญญาณ ฮู ก่อนกักตัวชาวจีนมาจากพื้นที่ระบาด
ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วานนี้ (4 ส.ค.) นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า "กาฬโรคปอด" ที่ระบาดที่ประเทศจีน เป็น 1 ใน 5 โรคติดต่อร้ายแรง (อหิวาห์ ไข้ทรพิษ กาฬโรค ไข้เหลือง และซาร์ส) ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรค 64 แห่งทั่วประเทศเฝ้าระวังกาฬโรคปอดบวม ที่อาจมากับหนูที่อาจมาจากประเทศจีน โดยเฉพาะทางเรือ และเก็บตัวอย่างหนูมาตรวจหาหมัด เรียกว่า "ดัชนีหมัด" เนื่องจากหมัดหนูจะเป็นพาหะแพร่เชื้อ ซึ่งปกติกรมควบคุมโรคจะตรวจหาหมัดในหนูและนำมาตรวจหาโรคทุกสิ้นปี โดยดัชนีที่พบอยู่ที่ 0.3-0.5 ไม่ถึง 1 ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวงมาก แต่เนื่องจากมีการระบาดในประเทศจีน ดังนั้นจึงได้สั่งการให้จับหนูมาตรวจหาหมัดทันที อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังรอสัญญาณจากองค์การอนามัยโลก (ฮู) ว่า จะมีการประกาศว่าโรคดังกล่าวเป็นโรคติดต่อร้ายแรงระหว่างประเทศหรือไม่ หากมีการประกาศออกมา ทาง รมว.สาธารณสุขไทยสามารถ ออกประกาศตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2523 เพื่อกักตัวคนที่เดินทางมาจากเมืองที่มีการระบาดได้
นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวว่า สำหรับเนื้อหนูนั้น แม้จะไม่มีรายงานว่ามีการรับประทานเนื้อหนูแล้วติดโรคต่าง ๆ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรรับประทาน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า "กาฬโรคปอด" สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยเฉพาะสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระต่าย กระรอก โดยมีหมัดหนูเป็นพาหะแพร่เชื้อแบคทีเรียสู่คน มีระยะฟักตัวของโรคประมาณ 7 วัน จากนั้นเชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดไปสู่ปอด และอาจทำให้เสียชีวิตทันที โดยหากเป็นกาฬโรคปอดโอกาสเสียชีวิต 60 % ส่วนกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองโอกาสเสียชีวิต 36 %.