มะกันเฮ! 2 นักข่าวถูกปล่อยตัว หลัง คลินตัน เจรจาเกาหลีเหนือราบรื่น

อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ของสหรัฐ เดินทางออกจากเกาหลีเหนือแล้ว หลังประสบความสำเร็จในการเจรจาให้เกาหลีเหนือปล่อยตัวผู้สื่อข่าวสาว ชาวอเมริกัน 2 คน ที่ถูกจับไปเมื่อเดือน มี.ค. หลังเดินทางไปเจรจากับนายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ

อดีตประธานาธิบดีคลินตัน เดินทางเยือนกรุงเปียงยาง และเข้าพบกับ นายคิม จอง-อิล เมื่อวานนี้ นับเป็นชาวอเมริกันระดับสูงสุดที่เดินทางเยือนเกาหลีเหนือในช่วงเกือบ 10 ปี สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า นายคลินตันได้กล่าวขอโทษนายคิม ต่อการกระทำที่เป็นศัตรูต่อเกาหลีเหนือของ นางลอรา หลิง และ นางอึนนา ลี ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันที่รุกล้ำเข้าไปในดินแดนของเกาหลีเหนือ พร้อมกันนี้ ได้ถ่ายทอดคำขอร้องของรัฐบาลสหรัฐให้เกาหลีเหนือยอมอภัยโทษ และส่งผู้สื่อข่าวทั้ง 2 คนกลับบ้านด้วยความมีมนุษยธรรม ซึ่งภายหลังนายคิมยอมอภัยโทษให้เป็นกรณีพิเศษ นายคลินตันได้ถ่ายทอดข้อความจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา ที่แสดงความขอบคุณอย่างยิ่งที่เกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวชาวอเมริกัน 2 คน อันเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ รายงานว่า อดีตประธานาธิบดีคลินตัน และคณะ เดินทางออกจากเกาหลีเหนือแล้ว โดยมีนายหยาง ฮยอง ซบ รองประธานสภาบริหารสูงสุดของสภาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือ และนายคิม เค กวาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ไปส่งที่ท่าอากาศยาน ด้านโฆษกของอดีตประธานาธิบดีคลินตัน กล่าวว่า นายคลินตันเดินทางออกจากเกาหลีเหนือพร้อมด้วยผู้สื่อข่าวอเมริกันทั้งสองคน โดยมุ่งหน้าไปยังนครลอสแองเจลิสของสหรัฐ ซึ่งครอบครัวของผู้สื่อข่าวทั้งสองมารออยู่

อัล กอร์ ยินดีเกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวผู้สื่อข่าวอเมริกัน

นาย อัล กอร์ แถลงร่วมกับนายโจเอล ไฮแอตต์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทเคอร์เรนท์ มีเดีย กล่าวยกย่องความกล้าหาญของนางลอรา หลิง และนางอึนนา ลี ในช่วงเวลา 140 วันแห่งความยากลำบากที่ถูกควบคุมตัวในเกาหลีเหนือ พร้อมแสดงความยินดีอย่างยิ่งที่ทั้งคู่ได้รับการปล่อยตัว และกำลังเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย

นางหลิง วัย 32 ปี และนางลี วัย 36 ปีซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เคอร์เรนท์ ทีวี ที่มีสำนักงานในนครซานฟรานซิสโก ถูกเกาหลีเหนือจับกุมเมื่อเดือนมีนาคมระหว่างทำข่าวใกล้กับชายแดนเกาหลีเหนือติดกับจีน จากนั้นถูกตัดสินให้ใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 12 ปี ฐานเข้าเมืองผิดกฎหมาย และกระทำการเป็นศัตรูต่อเกาหลีเหนือ แต่ล่าสุดได้รับการอภัยโทษเป็นกรณีพิเศษจากนายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุด หลังจากอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เดินทางไปช่วยเจรจาขอปล่อยตัวทั้งคู่ ซึ่งขณะนี้ ผู้สื่อข่าวทั้ง 2 คนกำลังเดินทางกลับสหรัฐพร้อมด้วยนายคลินตัน

ครอบครัว 2 นักข่าวขอบคุณอดีตผู้นำสหรัฐที่ช่วยเหลือ

สมาชิกครอบครัวของลอรา หลิง และ อึนนา ลี สองนักข่าวที่ถูกทางการเกาหลีเหนือจับกุมตัวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ต่างแสดงความยินดีที่ได้รู้ข่าวว่าทั้งคู่ได้รับการอภัยโทษจาก นายคิม จอง อิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ หลังจากอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เดินทางเยือนเกาหลีเหนือและได้เข้าพบกับ นายคิม เมื่อวานนี้ พร้อมกันนี้ทางครอบครัวได้ออกแถลงการณ์ขอบคุณอดีตประธานาธิบดีคลินตัน และรัฐบาลสหรัฐที่ให้การช่วยเหลือ

ขณะนี้ นายคลินตัน พร้อมด้วยนักข่าวทั้งสองได้ออกเดินทางจากกรุงเปียงยางแล้ว เพื่อมุ่งหน้าไปยังนครลอสแองเจลีส ซึ่งนักข่าวทั้งคู่จะได้พบปะกับสมาชิกครอบครัวที่นั่น

ชี้ความสำเร็จของคลินตันในเกาหลีเหนือมาพร้อมความเสี่ยง

นักวิเคราะห์ระบุว่า ความสำเร็จของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่สามารถเจรจาให้เกาหลีเหนือปล่อยตัวผู้สื่อข่าวสตรีชาวอเมริกัน 2 คน มาพร้อมกับความเสี่ยงทางการทูตในการหาทางปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

นาย นิโคลัส เซเชนีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาในสหรัฐระบุว่า ความเสี่ยงมากที่สุดคือเกาหลีเหนือจะเรียกร้องให้สหรัฐเปลี่ยนการเจรจาแก้ ปัญหานิวเคลียร์จาก 6 ฝ่ายเป็นทวิภาคีตามที่ยืนกรานมาตั้งแต่ปีก่อน หลังถอนตัวจากโต๊ะเจรจา 6 ฝ่าย หากสหรัฐทำตามข้อเรียกร้องนี้จะสร้างความวิตกให้แก่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ด้าน นายบรูซ คลิงเนอร์ จากมูลนิธิเฮอริเทจเห็นว่า ญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือยังคงวิตกอย่างยิ่งว่าในที่สุดแล้วรัฐบาลบารัค โอบามา จะยกเลิกนโยบายปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือเหลือเพียงนโยบายป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้น นายคลิงเนอร์แนะนำว่า รัฐบาลสหรัฐควรอาศัยไมตรีที่เกิดขึ้นจากการที่นายคลินตันไปเยือนเกาหลีเหนือมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ขณะเดียวกันต้องรักษาการเจรจา 6 ฝ่ายให้เหนียวแน่น และทำให้เกาหลีเหนือเห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์

ส่วน นายสกอตต์ สไนเดอร์ จากมูลนิธิเอเชียในสหรัฐชี้ว่า เพื่อนเก่าของเกาหลีเหนืออย่างจีนและรัสเซียอาจจะผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ผ่อนคลายมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือหลังจากเห็นว่าเกาหลีเหนือแสดงท่าทีพร้อมเจรจา ดังนั้น สหรัฐซึ่งยืนยันจะทำให้เกาหลีเหนือเลิกนิสัยไม่เชื่อฟัง เพื่อหวังรางวัลต้องยึดมั่นจุดยืนดังกล่าวและไม่รีบร้อนหาทางบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์