วอนช่วยหนูน้อย8เดือนผิดปกติตั้งแต่เกิด

วอนช่วยหนูน้อย8เดือนผิดปกติตั้งแต่เกิด

วอนช่วยหนูน้อย8เดือนผิดปกติตั้งแต่เกิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้องอานัด ลำตัวเล็ก ศีรษะค่อนข้างโต ตาโปน พุงป่อง ผิวหนังเหี่ยวย่น มือ-เท้าผอม มีแต่ผิวหนังหุ้มกระดูก ตรงหน้าท้องมีร่องรอยผ่าตัด เพื่อเอาลำไส้ใหญ่โผล่มาอยู่ด้านนอก

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีครอบครัวฐานะยากจน มีลูก 3 คน 2 คนปกติ แต่คนสุดท้องอายุ 8 เดือน ผิดปกติตั้งแต่เกิด เพราะมีผิวหนังเหี่ยวย่น ร่างกายไม่เติบโตตามวัย อยู่บ้านเลขที่ 249 ถ.เพชรเกษม ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ นางขนิษฐา ไตรบุญ อายุ 43 ปี กำลังอุ้มลูกคนสุดท้องชื่อ ด.ช.รชานนท์ ไตรบุญ หรือ น้องอานัด ซึ่งมีสภาพร่างกายผิดปกติ คือ มีลักษณะลำตัวเล็ก ศีรษะค่อนข้างโต ตาโปน พุงป่อง ผิวหนังเหี่ยวย่น มือ-เท้าผอม มีแต่ผิวหนังหุ้มกระดูก ตรงหน้าท้องมีร่องรอยผ่าตัด ทราบว่าเพื่อเอาลำไส้ใหญ่โผล่มาอยู่ด้านนอก สำหรับใช้ขับถ่ายแทนทวารหนัก

นางขนิษฐา ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ตนเองกับสามี ชื่อ นายชาญวุฒิ ผลร้อย อายุ 42 ปี มีอาชีพเข็นรถขายไก่ทอด ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านแม่ของตนเอง มีลูกทั้งหมด 3 คน คนโตเป็นผู้หญิงอายุ 22 ปี คนรองผู้ชายอายุ 16 ปี ซึ่งทั้ง 2 คนปกติดี ส่วนคนเล็ก คือ น้องอานัด อายุ 8 เดือน น.น. 3.5 ก.ก. เกิดที่ รพ.มิชชั่นภูเก็ต จ.ภูเก็ต ด้วยการผ่าตัด ตอนแรกเกิดแพทย์ต้องนำไปรักษาอยู่ในตู้อบระยะเวลานานเป็นเดือน ก่อนที่จะอนุญาตให้นำมาดูแลอยู่ที่ รพ.พังงา จ.พังงา ต่อมาเมื่ออายุ 7 เดือนพบว่า ลำไส้ใหญ่ดูดซับอาหารผิดปกติ มีอาการถ่ายออกมาเป็นเลือด โดยการแนะนำของหมอจึงได้นำน้องอานัดไปผ่าตัดที่ รพ.สุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี หมอได้ผ่าตัดลำไส้ส่วนที่เสียออกไปและทำการให้ปลายลำไส้ใหญ่โผล่ออกมาตรงหน้าท้อง เพื่อให้เด็กสะดวกในการขับถ่ายด้านนอก โดยต้องคอยดูแลความสะอาดและป้องกันไม่ให้ผิวถลอก ด้วยการทาวาสลินอยู่ตลอดเวลา และต่อมาพบว่าเด็กหัวใจเต้นเร็ว ตรวจพบมีปัญหาผนังหัวใจรั่ว จึงนำมาตรวจรักษาที่ รพ.รามาธิบดี กรุงเทพฯ เพื่อตรวจอาการเกี่ยวกับหัวใจ จากนั้นหมอให้กลับบ้านและรอสังเกตดูอาการ ซึ่งขณะนี้เด็กกินได้เฉพาะนมเท่านั้น และมีพัฒนาการทางด้านสมองช้ากว่าเด็กปกติทั่วไป

นางขนิษฐา กล่าวต่อว่า จากการที่ตนเองและสามีต้องคอยผลัดกันเฝ้าดูแลน้องอานัด อีกทั้งต้องนำลูกไปโรงพยาบาลตลอดเวลา โดยปล่อยให้ลูกสาวคนโตออกไปขายไก่ทอดและมีน้องคนรองได้คอยช่วยเหลืออยู่บ้าง จึงทำให้รายจ่ายเพิ่มมากขึ้น ขณะที่รายได้ที่จะมาจุนเจือครอบครัวน้อยลงไปมาก จึงทำให้ครอบครัวตนเองมีความลำบากมาก การที่ต้องพบกับสภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งในช่วงแรกๆ ตนเองต้องนอนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา จนมาถึงขณะนี้ค่อยทำใจรับกับสภาพที่เป็นอยู่ได้บ้างแล้ว แต่ก็อดสงสารลูกๆ โดยเฉพาะน้องอานัดไม่ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook