ผบ.ตร.ไม่อยู่ ถกคดียิงสนธิพรึบ ธานี พูด

ผบ.ตร.ไม่อยู่ ถกคดียิงสนธิพรึบ ธานี พูด

ผบ.ตร.ไม่อยู่ ถกคดียิงสนธิพรึบ ธานี พูด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธานี พูดเป็นนัย ผบ.ตร. ไม่อยู่ เรียกประชุมทีมสืบสวนคดี สนธิ เรียงหน้ามากัน "พรึบ" ต่างจากเมื่อก่อนโหรงเหรง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 14.00น วันที่ 5 สิงหาคม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เ รียกชุดสืบสวนสอบสวนในคดีประชุมความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา และความคืบหน้าในการหาพยานหลักฐานต่าง ๆโดยมี พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าชุดติดตามผู้ต้องหา พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รองผบก. หน. ศสส. บช.น. พร้อมด้วยทีมสืบสวน พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.น. 1 และเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน และใช้เวลาการประชุมกว่า 1 ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ พล.ต.อ.ธานี จะเดินทางเข้าห้องประชุม ได้ทักทายผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวอยู่ด้านหน้าอย่างอารมณ์ดี ว่า "ไม่ได้เจอกันนานนะ" ต่อมาพล.ต.อ.ธานี ได้กล่าวหลังประชุมเสร็จสิ้นว่า ขณะนี้ทีมสืบสวนสอบสวนทำงานกันอย่างแข็งขัน ทุกคนได้ช่วยกันอย่างเต็มที่ จะเห็นว่า ทุกวัน พล.ต.ท.อัศวินจะเรียกหัวหน้าชุดทำงานมารายงานความคืบหน้าทุกวัน เป็นสัปดาห์แล้ว กรณีการออกหมายจับผู้ต้องหา 3 คนนั้นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถขออนุญาตศาลออกหมายจับได้ ส่วนรถกระบะ อุซูซุดีแมค สีดำ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษส่งให้พฐ.ตรวจนั้น ถือเป็นรถต้องสงสัยเพือนำมาตรวจเพื่อหาพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นการตรวจตามขั้นตอน ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จาก พฐ.

ผู้สื่แข่าวถามว่าจะมีการเรียกทนายความของ จ.ส.ต.ปัญญา ศรีเหรา หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมกันพยายามฆ่า นายสนธิ มาสอบสวนหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ยังไม่มีการเรียกมาสอบปากคำแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้มีการพูดคุย เห็นข่าวที่ปรากฏตามสื่อเท่านั้น ส่วนกรณีที่นายสนธิ ออกมาระบุว่า ผู้ที่อยู่ในกระบวนการร่วมสังหารตัวเองนั้นมีทหาร 13 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย นั้น พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ไม่ทราบว่าที่นายสนธิ พูดถึงเป็นใคร ตำรวจดูในส่วนที่รับผิดชอบและพยานหลักฐาน

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา สบ 10 รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้กำชับเรื่องคดีอย่างไร พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า เมื่อเช้ามาพบ และแจ้งให้ทราบว่าได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีว่า ให้เร่งรัดติดตามการดำเนินคดีลอบยิงนายสนธิ ซึ่งตั้งแต่งวันจันทร์เป็นต้นมา พล.ต.ท.อัศวิน ก็ได้เรียกหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนมารายงานการทำงานโดยตลอด มาวันนี้ตนก็เรียกประชุมอีกที่เพื่อสรุปผลการทำงานที่ผ่านมาให้ที่ประชุมรับทราบ ซึ่งขณะนี้ งานต่าง ๆก็ดำเนินการมาได้ด้วยดี รวดเร็วขึ้น

ต่อข้อถามว่าการที่ผบ.ตร.ไม่อยู่ ส่งผลต่อการทำงานอย่างไร พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ว่าที่ผ่านมาพล.ต.ท.อัศวินก็เรียกประชุมชุดทำงานทุกวัน เวลา 10.00 น.

"คุณไม่เห็นเหรอ ที่ประชุมเนี่ยพรึบเลย คนเข้าประชุมเนี่ย ตั้งแต่วันจันทร์แล้วคึกคัก เมื่อก่อนโหรงเหรง นับคนได้ แต่วันนี้มีเยอะแยะ ทุกคนขมีขมันทำงานเต็มที่ อย่างนี้คดีก็เดินหน้าไปได้ พยานหลักฐานต่าง ๆ ก็มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนจะสาวถึงตัวบางการหรือไม่ ก็ต้องขึ้นกับพยานหลักฐาน พูดลอย ๆ ไม่ได้" พล.ต.อ.ธานีกล่าว

ส่วนกรณีจะให้ความเป็นธรรมกับ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. กับกรณีที่ส่งจดหมายขอความเป็นธรรมมาอย่างไรนั้น พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า เห็นแต่จดหมายมา สื่อก็ช่วยบอกได้ด้วยว่า ให้มามอบตัวกับตน หากไม่มาอาจจะเป็นอันตรายมากกว่ามาพบตนเอง

ผู้สื่อข่าวถามอักว่าวันที่ 4-14 ส.ค. นี้ จะมีความคืบหน้าทางคดีขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ก็เห็นอยู่ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นมาก็ประชุมกันทุกวัน เชื่อว่าการทำอย่างนี้ ช่วยกันทำงาน เร่งรัด พยานหลักฐานจะมีความชัดเจนขึ้นเป็นธรรมดา แต่การที่จับผู้ต้องหาที่ออกหมายจับไม่ได้ก็เพราะเขายังหนีอยู่ ตำรวจก็มีหน้าที่ไปตามจับ

กมธ.งบรุมชักความคืบหน้าคดีสนธิกับผช.ผบ.ตร.

ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 53 ในส่วนงบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับจัดสรรจำนวน 66,730,031,500 บาท โดย พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผช.ผบ.ตร. ชี้แจงถึงปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณก่อสร้างบ้านพักตำรวจทั่วประเทศล่าช้าว่า เนื่องจากกระบวนการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์บางอย่างต้องสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างทางภาคใต้มีจำนวนน้อยการเคลื่อนย้ายและขนถ่ายวัสดุจึงเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนงบประมาณการสั่งซื้อเสื้อเกราะให้กับตำรวจในภาคใต้ได้สั่งซื้อจำนวน 10,000 ตัว เนื่องจากเสื้อเกราะที่ใช้อยู่หมดสภาพอายุการใช้งานแล้วประมาณ 6,000 ตัว

พล.ต.ท.วัชรพล ชี้แจงด้วยว่า สำหรับการดำเนินคดีกับผู้กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สตช.ได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดีดังกล่าวทางอินเตอร์เน็ตไปแล้ว 1,490

ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น อยู่ในความดูแลของพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร.กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อหาหลักฐานมัดตัวผู้กระทำผิดให้ได้ และยืนยันว่าจะไม่มีการจับแพะแน่

จากนั้น พล.ต.ต.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ รองผบช.ภ. 9 ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจดับไฟใต้ ชี้แจงถึงคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2542 - ปัจจุบันว่ามีมากกว่า 9,000 คดีแต่ ในปี 2552 เกิดเหตุรวมทั้งสิ้น 720 คดีถือว่าเป็นตัวเลขที่ลดลง จังหวัดที่เกิดเหตุการณ์น้อยลงคือ จ. ยะลา และนราธิวาส ขณะที่จ.ปัตตานีกลับมีคดีมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นกรรมาธิการฯได้แสดงความกังวลกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละพื้นที่ และการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อสร้างบ้านพักตำรวจทั่วประเทศในปี 52 ที่ไม่สัมฤทธิ์ผล อาทิ นายอัสนี เชิดชัย ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จ.นครราชสีมาว่าอิงกับผลประโยชน์มากกว่าจะปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชน โดยยกตัวอย่างว่าเทศบาลเมือง จ.นครราชสีมา ได้ทำเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ย้ายป้ายรถประจำทางหน้าห้างเดอะมอลล์ สาขานครราชสีมา เพราะทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ดูแลเจ้าของห้างมากกว่าประชาชน พร้อมทั้งระบุว่าสมมุติว่ามีหลังบ้านนายตำรวจใช้บัตรของห้างดังกล่าวรูดซื้อสินค้าและรับส่วนลดถึง 20% จะทำให้ครอบครัวตำรวจนายนั้น ๆ มีรายได้มากมาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook