สุวิทย์ สั่งย้ายพระออกจากป่าใน 90 วัน ห้ามคารวานพระธุดงค์เข้าป่าขับจยย.วิบาก
กรณีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)มีนโยบายให้กรมป่าไม้ผลักดันสำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ที่เข้าไปสร้างในพื้นที่ป่าอย่างผิดกฎหมาย ล่าสุดมูลนิธิสืบ นาคะเสถียรออกมาสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว อย่างไรก็ตามกลุ่มพระป่า ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 สิงหาคม นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ให้สัมภาษณ์ว่า ความจริงแล้วสำนักสงฆ์ หรือวัดที่อยู่ชายป่า ที่เข้าร่วมกระบวนการอนุรักษ์ป่าร่วมกับชาวบ้านมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย เช่น พระอนุรักษ์วัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร วัดพระธาตุเมืองเทพ จ.อุทัยธานี สำนักสงฆ์หลวงตาศิลาเทิน จ.อุทัยธานี มีพระเป็นผู้นำในการตั้งป่าชุมชน และนำชาวบ้านดับไฟป่าทุกปี แต่ยอมรับว่ามีพระอีกไม่น้อยที่เข้าไปธุดงค์ในป่าและทำให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่อยู่ประจำด่านต่างๆในป่าลึกๆมีความลำบากใจ เรื่องการเข้าออกจากป่า
"ยิ่งไปกว่าการขับรถโฟว์วีลของพระตามที่เป็นข่าวไปนั้น ในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่ฝั่งตะวันตก แถบ อ.อุ้มผาง จ.ตาก ยังเคยเห็นพระขับรถมอเตอร์ไซต์วิบากเลย ผมก็ไม่รู้ว่าแบบนี้จะถูกหรือผิด เพราะบางคนบอกว่าพระทำแบบนี้ได้ไม่ผิด แต่เท่าที่ผมเห็น พระขับมอเตอร์ไซต์วิบากเข้าออกจากป่า ดูไม่งามนัก ที่เห็นบ่อยอีกเรื่องก็คือ มีคณะญาติโยม นุ่งขาวห่มขาว รวมทั้งแม่ชี พร้อมพระ ขับรถโฟว์วีลเข้าป่า เพื่อนำของไปถวายพระในวัดในป่า และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชก็ไม่กล้าที่จะต่อว่าอะไร เพราะเกรงใจพระ มักจะปล่อยให้คณะผ่านไป" นายศศิน กล่าว และว่า ดังนั้นพระ หรือญาติโยมที่จะเข้าป่า ต้องศึกษากฏระเบียบต่างๆที่มีอยู่ให้เข้าใจ และต้องปฏิบัติให้ได้ด้วย
พระอมรมิตร คัมภีรธัมโม ประธานกรรมการอนุรักษ์ผืนป่าตะวันตก และพระวัดพระธาตุเมืองเทพ จ.อุทัยธานี กล่าวว่า ความจริงแล้วป่าคือสถานที่ ฝึกจิต ทำให้จิตตื่น หากพระจะเข้าป่า หรือใช้สถานที่ในป่าเป็นที่ศึกษาธรรมะต้องนิ่งพอและใช้สติอย่างมาก และเรื่องพระในป่าก็มีมานานแล้วส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาอะไร จะมีปัญหาก็คือ ที่เข้าๆออกๆ
ด้านนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีทส.กล่าวว่า ให้นโยบายชัดเจนว่า สำหรับวัด หรือสำนักสงฆ์ที่อยู่ในป่าทุกแห่งอย่างถูกต้องตามกฏหมายนั้นให้ส่งเสริมให้เป็นพุทธอุทยานเพื่อเป็นแหล่งปฏิบัติธรรมและช่วยอนุรักษ์ป่าด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีวัดและสำนักสงฆ์หลายแห่งที่ทำหน้าที่นี้อย่างดี
"ส่วน ที่มีปัญหา 68 แห่งนั้น เจ้าหน้าที่เราจะเข้าไปเจรจาให้ออกมาจากพื้นที่โดยเร็วตั้งกรอบเวลาเอาไว้ว่าจะต้องดำเนินการภายใน 90 วัน" นายสุวิทย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ต่อไปจะอนุญาตให้คาราวานพระธุดงค์เข้าป่าหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่พระธุดงค์ที่เข้าป่าเพียงรูป สองรูปจะเข้าไปศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่อุทยานฯไม่เคยห้าม เพียงแต่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น แต่ถ้าเข้าไปในลักษณะคาราวานพระคิดว่าไม่เหมาะสม และเสี่ยงต่อการทำให้ระบบนิเวศในพื้นที่ป่านั้นได้รับความเสียหาย กรณีนี้จะไม่อนุญาตให้เข้าไปอยู่แล้ว