มาร์ค สวน เพรียวพันธ์ ไม่มีญาติแซงหัวใคร

มาร์ค สวน เพรียวพันธ์ ไม่มีญาติแซงหัวใคร

มาร์ค สวน เพรียวพันธ์ ไม่มีญาติแซงหัวใคร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อภิสิทธิ์ ยันไม่เคยล้วงลูกโผตำรวจ แถมเมิน เพรียวพันธ์ ฟ้องศาลปกครอง ระบุตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร นั่งรักษาการผบ.ตร.เพราะต้องการให้งานเดินหน้า และไม่มีข้อครหาตามหลัง ลั่นไม่ได้มีประโยชน์ส่วนตัวอยู่ เพราะไม่ได้มีญาติหรือดองไปแซงหัวใคร

(7ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติยืนยันโผโยกย้ายนายตำรวจอันเดิมว่า การประชุมก.ตร.นั้นเป็นการหารือข้อกฎหมายทั้งหมด เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องขั้นตอนการดำเนินการที่จะมีพระราชกฤษฎีกาโครงสร้าง ซึ่งประกาศใช้และมีผลบังคับ โดยเงื่อนเวลามาประชั้นกับการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี ซึ่งเข้าใจว่ามีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยรักษาการผบ.ตร.ทราบอยู่ว่าประเด็นใดที่จะต้องชัดเจนและรัดกุม

เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าไม่มีการล้วงลูก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี และตนไม่เคยไปยุ่งเรื่องนั้นอยู่แล้ว เพราะฝ่ายการเมืองไม่มีอะไร มีเพียงเรื่องของข้อกฎหมาย ที่มีประเด็นเรื่องการจะนำขึ้นทูลเกล้าฯในขณะที่พระราชกฤษฎีกายังไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งขณะนี้น่าจะได้ข้อยุติชัดเจนว่ายังทูลเกล้าฯไม่ได้จนกว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ และเรื่องของการบริหาร เนื่องจากเงื่อนเวลาในการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี ซึ่งกระชั้นเข้ามา ก็อยู่ที่ว่า ก.ตร.จะเห็นว่าสามารถบริหารจัดการไม่ให้เกิดความยุ่งยากได้หรือไม่ และต้องคำนึงถึงผู้บริหารชุดใหม่ตั้งแต่ ผบ.ตร. ลงมาด้วย

เมื่อถามถึงการดำเนินการกับโผเล็ก ที่ไม่ใช่โผนายพลนั้นต้องรอ ผบ.ตร.คนใหม่มาดำเนินการหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบมติก.ตร.ในรายละเอียด แต่เท่าที่ทราบคือมีการตกลงกันที่จะให้โครงสร้างประกาศใช้แล้วมีการดำเนินการเรื่องการทูลเกล้าฯ ส่วนที่ได้มีการอนุมัติไว้เดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ซึ่งคำว่าโผเล็กนั้นหมายถึงประเด็นการจัดคนให้ลงกับโรงสร้างที่จะเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งการโยกย้ายแต่งตั้งประจำปีก็จะมีคนเกษียณอายุราชการออกไปจึงต้องขยับเพื่อไม่ให้เกิดสูญญากาศ แต่ได้ให้นโยบายไปอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ให้มีผลกระทบกับการบริหารต่อไปและต้องคำนึงถึงการมีผู้บริหารคนใหม่

"ส่วนที่ประชุม ก.ตร.ต้องมีการโหวตเพื่อลงมตินั้นไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะเรื่องนี้โต้แย้งกันในแง่ของกฎหมายและมุมมองการบริหาร แต่เข้าใจว่า รักษาการผบ.ตร.ทราบประเด็นของทั้งสองฝ่าย เพราะฉะนั้นก็ต้องมีหน้าที่ดูแลว่าจะทำอย่างไรให้ประเด็นข้อกฎหมายและการบริหารราบรื่นที่สุด" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า หมายความว่าเป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาการ ผบ.ตร. ไม่ใช่หน้าที่ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. แล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ขณะนี้รักษาการ ผบ.ตร.ก็ต้องทำงานเต็มที่ในการเดินหน้าให้เรียบร้อย"

เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ รอง ผบ.ตร.ไปร้องศาลปกครองกรณีไม่ได้เป็น รักษาการ ผบ.ตร. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กฎหมายกำหนดไว้ชัดว่าเป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีในการแต่งตั้ง กรณีที่ไม่มีการแต่งตั้งเท่านั้น จึงจะไปใช้บทบัญญัติในวรรค 2 เรื่องความอาวุโส ถ้ากฎหมายตั้งใจว่าคนแต่งตั้งให้รักษาราชการแทนต้องยึดอาวุโสไว้ คงไม่เขียนกฎหมายอย่างนี้

"ถามว่าผมตัดสินใจด้วยเหตุผลอะไร ก็ได้อธิบายไปแล้วว่าผมคิดว่าท่านพล.ต.อ.วิเชียร อยู่ในฐานะดีที่สุด ที่จะทำให้การบริหารจัดการในเรื่องที่เป็นปัญหา ข้อครหา ข้อโต้แย้ง ความขัดแย้งต่างๆ เดินไปได้ในลักษณะที่ราบรื่นที่สุด และเป็นเพียงการแต่งตั้งให้รักษาราชการแทน ไม่ได้ผูกพันผูกมัดว่าจะไปเป็น ผบ.ตร.ท่านต่อไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า เป็นเพราะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นญาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลยได้รับความไว้วางใจน้อย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่ได้เป็นเรื่องของใครอย่างไร แต่เป็นการดูตามข้อเท็จจริง และคิดว่าถ้าตั้งคนนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นในสังคม โดยไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นเรื่องของใครอย่างไร และไม่ได้มีอะไรเป็นการส่วนตัว แต่ดูคนตามสถานการณ์ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับส่วนร่วม ผมไม่ได้มีประโยชน์ส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะไม่ได้มีญาติผม หรือดองผมไปแซงหัวใคร"

เมื่อถามว่า โครงสร้างตำรวจใหม่ จะเสร็จทันเดือนกันยายนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องประกาศโดยเร็ว เพราะเข้าใจว่ามีการโปรดเกล้าฯแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการนำลงในราชกิจจานุเบกษา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook