พิษโควิด-19 ทำคราฟท์เบียร์ในฝรั่งเศสขายไม่ออก ผู้ผลิตจำใจเททิ้ง 10 ล้านลิตร
สื่อต่างประเทศหลายแห่ง รายงานว่า ตลาดคราฟท์เบียร์ในฝรั่งเศส ต้อง "เทเบียร์ทิ้ง" มากถึง 10 ล้านลิตร เพราะได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เบียร์พวกนี้ขายไม่ได้ในท้องตลาด
เบียร์ 10 ล้านลิตร จากกลุ่มผู้ผลิตคราฟท์เบียร์ต้องจำใจทิ้งทั้งหมด หากให้เทรวมกันจะมีเบียร์เท่าเท่ากับสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานหรือสระโอลิมปิกส์ถึง 4 สระเลยทีเดียว ซึ่งเบียร์ทั้งหมดที่หมักเอาไว้ไม่มีการพาสเจอร์ไรซ์ ที่ตามปกติแล้วเมื่อหมักเบียร์ได้สมบูรณ์ก็พร้อมจะขายให้กับนักดื่มในทันที แต่ผลเสียจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมคราฟท์เบียร์ของฝรั่งเศสได้รับผลกระทบ
แมกซิเม่ คอติเยร์ ประธานสมาคมผู้ผลิตเบียร์ของฝรั่งเศส ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตคราฟท์เบียร์ต้องเทเบียร์ทิ้งไป 10 ล้านลิตรเนื่องจากมันเสีย หรือบูดหมดแล้ว ไม่สามารถเอาไปขายได้ เพราะเมื่อเราเก็บเอาไว้ในถังหมักพร้อมขายราว 2-3 เดือน หากขายไม่ได้รสชาติจะเสีย และกลิ่นก็จะหายไปด้วย
ที่ผ่านมาตลอดทั้งกลุ่มตลาดเบียร์คราฟท์ในฝรั่งเศส จะมีกลุ่มผู้ผลิตทั้งหมด 300 ราย ผลิตเบียร์เข้าสู่ตลาดถึง 98% ของตลาดเบียร์ทั้งหมด และในปี 2562 สมาชิกสมาคมผู้ผลิตเบียร์ ลงทุนผลิตเบียร์เป็นสัดส่วนเงินลงทุนมากถึง 241 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยราว 8,500 ล้านบาท แต่ทั้งหมดต้องสูญหายไปเมื่อเจอผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ประเทศมานานกว่า 2 เดือน ขณะที่บาร์ ร้านอาหาร ซึ่งเป็นแหล่งที่ขายเบียร์ให้กับลูกค้ายังคงไม่อนุญาตให้เปิดบริการ ทำให้บรรดาเบียร์คราฟท์ที่เคยส่งไปสู่ตลาดต่างๆ ต้องประสบปัญหาการระบายสต็อก และเป็นเหตุให้เบียร์ 10 ล้านลิตรในฝรั่งเศสไร้ค่าไปในทันที