เฟิสท์ แจงทั้งน้ำตาไม่ได้ทำร้ายคู่กรณี
นางเอกวิก 7 สี แถลงข่าวทั้งน้ำตา โต้ไม่ได้รุมทำร้ายคู่กรณีตามที่เป็นข่าว ขณะเปิดแถลงข่าวคู่กรณีขอร่วมฟังด้วย สุดท้ายเปิดศึกอีกรอบ ก่อนแยกย้ายกลับไป
ความคืบหน้ากรณี นางธนกร อเนกอำไพ อายุ 44 ปี พร้อมด้วย น.ส.สาคร บ๋าศาลา อายุ 29 ปี เข้าแจ้งความ พ.ต.ท.ปัญญา ไอยราคม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ดำเนินคดี น.ส.ณัฐกมล สอนเพ็ง หรือ เฟิสท์ อายุ 22 ปี ดารานักแสดงละครเรื่องเพื่อนรักตัวยุ่ง และผ่าโลกบันเทิง ในข้อหาทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดในร้านสปาชื่อ "เรือนสปา" ภายในซอยถนนสามัคคี บริเวณหมู่บ้านประชานิเวศน์ 4 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี และฝ่ายดาราสาวกับมารดา แจ้งความกลับว่า คู่กรณีบุกรุก พร้อมทั้งปฏิเสธไม่ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายคู่กรณี
ล่าสุดเวลา 14.00 น. วันที่ 8 สิงหาคม ที่บ้านเลขที่ 68/27 หมู่บ้านประชานิเวศน์ 4 ซึ่งเปิดเป็นร้านเรือนสปา นางนาฎยา จุลเกตุ อายุ 43 ปี พร้อมด้วย บุตรสาว น.ส.ณัฐกมล หรือ น้องเฟิสท์ ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องดังกล่าว
น้องเฟิสท์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นขอยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายคู่กรณีวันเกิดเหตุ แต่เห็นคู่กรณีมีปากเสียงกับพนัก งานในร้านจึงเข้าไปห้ามปราม กลับถูกคู่กรณีรุมต่อว่าและทำร้ายก่อนจนเกิดการชุลมุน
"ระหว่างชุลมุนนั้นได้ใช้มือผลักคู่กรณีออกไป และไม่ได้ตบตี หรือข่วนตามที่คู่กรณีเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างไร" น้องเฟิสท์ กล่าวและว่า ตนเองได้รับบาดเจ็บ และไปตรวจร่างกายที่ รพ.เกษมราษฎร์ ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นอยากขอความเป็นธรรมจากพี่ๆ สื่อมวลชนด้วย เพราะเรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่อีกฝ่ายกล่าวหา
ด้าน นางนาฎยา กล่าวว่า เลี้ยงน้องเฟิสท์มาตั้งแต่เด็ก ลูกสาวคนนี้ไม่ใช่คนก้าวร้าว เรื่องที่เกิดขึ้นหากฝ่ายตนรุมทำร้ายคู่กรณีก่อน รับรองว่าเขาต้องเจ็บมากกว่านี้แน่นอนเพราะลูกสาวจบเทควันโดสายดำ คงไม่ปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บหรอก เพียงแต่ลูกสาวเขาเข้ามาช่วยห้ามปรามไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรด้วยเลย
"เรื่องที่เกิดขึ้นในฐานะแม่รู้สึกสงสารเขามาก จึงอยากให้สังคมเข้าใจด้วย ส่วนเรื่องที่หุ้นส่วนคู่กรณีต้องการถอนหุ้นและแบ่งเงินคืนนั้น ได้บอกกับเขาไปแล้วว่าเพิ่งจะร่วมกันดำเนินกิจการได้ไม่นาน ทางร้านยังไม่มีกำไร อีกทั้งดิฉันก็ลงเงินตกแต่งร้านเพิ่มไปอีกหลายหมื่นบาท ขณะที่ฝ่ายเขาก็ไม่คิดจะมาดูแลหรือเพิ่มเงินตกแต่งร้านเลย" แม่ดาราสาวกล่าว
ระหว่างนั้นแม่ดาราสาวก็ได้นำสัญญาการทำกิจการหุ้นส่วนร่วมกันของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งบัญชีรายรับรายจ่ายมาแสดงให้สื่อมวลชนดู
เวลาต่อมา นางธนกร พร้อมด้วย น.ส.สาคร เพื่อนสาวคนสนิทเดินทางมาที่ร้านสปาดังกล่าว เมื่อทราบว่า ดาราสาวพร้อมมารดากำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่ จึงขอเข้าไปชี้แจงบ้าง ทางฝ่ายดาราสาวกับมารดาก็ยอมให้เข้ามาพูดคุยเจรจาต่อหน้าสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนาฎยาได้นำหลักฐานการซื้อของ รวมทั้งบัญชีรายรับรายจ่ายมาให้นางธนภรดู ซึ่งนางธนภร ได้ขอให้ถ่ายเอกสารเพื่อที่จะนำกลับไปตรวจสอบก่อนจะมาดำเนินการชำระบัญชีกันในภายหลัง ระหว่างนั้นเองทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากโต้เถียงกันอย่างรุนแรงและต่างฝ่ายต่างให้ข่าวจนเสียหาย
ทั้งนี้ น.ส.สาคร ยืนยันว่าจะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายจนถึงที่สุด ขณะที่ดาราสาวและมารดาก็เตรียมให้ทนายฟ้องร้องดำเนินคดีกับคู่กรณีหลายข้อหาในฐานะที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นางธนกรและเพื่อนสาวกลับออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากเดินทางมาแล้วตกลงกันไม่ได้