"แนท ณัฐชา" ควงสามี "เป๊ก รัฐภูมิ" เปิดใจคำครหาวิวาห์ฟ้าแลบท้องก่อนแต่ง
เตรียมตัวเป็นคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่กันอีกคู่สำหรับคู่รักสุดหวานอย่าง แนท ณัฐชา และ เป๊ก รัฐภูมิ ที่จูงมือกันมาเปิดใจเป็นครั้งแรกใน รายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร ถึงประเด็นดราม่าแต่งสายฟ้าแล่บหลังคบหาดูใจได้เพียง 4 เดือน พร้อมเคลียร์คำครหาท้องก่อนแต่ง เผยเคยคิดฆ่าตัวตายเพราะเหตุซึมเศร้าแต่เพราะพระเจ้าช่วยชีวิตจนพบรักแท้
สุขภาพตอนนี้โอเคมั้ย แพ้ท้องบ้างมั้ย ?
แนท : "แข็งแรงมากเลย แพ้ท้องน้อยมากเคยอาเจียนแค่ 2 ครั้งเอง"
กี่เดือนแล้ว ?
แนท : "4 เดือนแล้วค่ะ"
ท้องในสถานการณ์โควิด-19 เรามีกังวลมากน้อยแค่ไหน ?
เป๊ก : "อยู่บ้านอย่างเดียวเลย แนทจะอยู่บ้านคนเดียวเลยกับพ่อแม่ ส่วนผมก็จะออกไปทำงานข้างนอกบ้าง"
ในช่วงโควิด-19 เรามีการดูแลตัวเองกับภรรยายังไง ?
เป๊ก : Wโดยปกติก็ใช้เจลล้างมืออยู่แล้ว ใส่มาส์กตลอด"
จุดเริ่มต้นของทั้งคู่เจอกันได้ยังไง ?
เป๊ก : "จุดเริ่มต้นคือผมพาลูกค้าไปเที่ยวที่เกาะสมุย ไปดูแลเทคแคร์ ตอนนั้นเราทำเกี่ยวกับพวกการลงทุน แล้วมันก็มีงานเฟสติวัลอยู่ แล้วน้องเขาก็ไปกับเพื่อนของเขา""
แนท : "แนทไปงานครั้งแรกเลยเป็นงาน EDM"
เป๊ก : "เพื่อนขอเขาเป็นรุ่นน้องผม พอเจอเขาก็พอรู้จักบ้างแต่ไม่ได้รู้จักขนาดคนนี้ชื่อแนท รู้แค่ว่าคนนี้เป็นลูกพ่อแหลม พอเจอกันครั้งแรกก็รู้สึกว่าอยากคุยนะ แต่รู้สึกมันอยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน"
แนทนึกว่าเป๊กเป็นเกย์ใช่มั้ย ?
แนท : "ใช่ เพราะว่าเขาขาวมาก แล้วเขาก็ดูแบบว่าหน้าใสมาก"
เป๊ก : "เรารู้แล้วว่าคนนี้อยากรู้จัก แต่อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ หลังจากงานนั้นต่างคนก็ต่างกลับ แต่เราก็รู้สึกว่าอยากจะติดต่อเขา อยากจะคุยกับเขา"
ในใจลึกๆ ตอนนั้นคือชอบ? แต่แนทนึกว่าเป็นเกย์?
เป๊ก : "ชอบ"
แนท : "ใช่ แล้วแนทก็คิดว่าเขาไม่ได้ชอบเราด้วย แต่แค่รู้ว่าเพื่อนบอกว่าพี่เขามองๆ นะ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้โฟกัสว่าอยากมีแฟน ช่วงนั้นก็มีหนุ่มๆ เข้ามาจีบบ้าง"
เป๊ก : "หลังจากสมุยก็ประมาณ 6 เดือนที่ไม่ได้คุยอะไรกันเลย แต่ก็ถามพัด ถามกันไปมาไม่ได้คุยกันตรงๆ จนพัดบอกให้เอามือถือมานี่ แล้วก็แอดไลน์ไปเลย แล้วก็คุยเลย แล้วก็ทักให้ก่อนด้วย พอทักไปน้องเขาก็ตอบมา จนสุดท้ายก็ได้คุย"
อะไรทำให้แนทเปิดใจคุย ?
แนท : "ตอนแรกยังไม่เปิดก่อน ตอนเริ่มคุยเรารู้แล้วว่าเขาเป็นคนที่ดีมาก เพราะพัดโฆษณาไว้เยอะมาก เขาบอกว่าพี่เป๊กเป็นคนดีมาก แต่เขาดีเกินไป เราก็ดีเกินไปแล้วมันไม่ดียังไง เราก็ไม่เข้าใจ พอเริ่มคุยเราก็อ๋อ เพราะตั้งแต่ที่เขาทักมาคุยเขาคุยแต่เรื่องพระเจ้าตลอดเวลา ทุกคำเลยแบบ พระเจ้าต้องส่งน้องมาให้พี่แน่ๆ อะไรแบบนี้"
แล้วไปเดทครั้งแรกที่โบสถ์จริงมั้ย ?
แนท : "อันนั้นคือเดทครั้งแรกที่แนทตกลงนะคะ ตอนแรกต้องบอกก่อนว่าแนทไม่คุย พอหลังจากที่พี่เป๊กจีบเราด้วยคำพูดเป็นพารากราฟเป็นเกี่ยวกับเรื่องราวของพระเจ้า"
เกิดอะไรขึ้นทำไมเราถึงมาทางพระเจ้าร้อยเปอร์เซ็นขนาดนี้ ?
เป๊ก : "ผมมีเพื่อนเป็นคริสเตียนแล้วเขาก็พาผมไปโบสถ์ ไปครั้งแรกผมรู้สึกว่าผมไม่เคยสัมผัสถึงความรักแบบนี้มาก่อน เพราะบ้านผมเป็นครอบครัวที่ไม่อบอุ่น พูด 3 คำทะเลาะกันทุกวัน พูดง่ายๆ คือผมทิ้งพ่อทิ้งแม่ไปอยู่บ้านเพื่อนเลย พอเข้าบ้านคุยกันไม่ถึง 3 คำก็ทะเลาะกัน พ่อแม่ทะเลาะกัน ครอบครัวแตกแยก แต่พอไปที่โบสถ์เราสัมผัสถึงความรักที่มีให้กับเรา คนอื่นๆ ที่มีให้เราทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน เราเลยเริ่มอยากจะคลุกคลีอยากจะศึกษาจริงๆ ว่าคริสเตียนคืออะไร เพื่ออยากจะเข้าถึงพวกเขา"
"พอเรารู้จักคริสเตียนเรารู้เลยว่าไม่ใช่เป็นแค่ศาสนา มันคือการเข้าถึงความรักที่พระเจ้ามีให้กับเรา เมื่อก่อนการที่ตัวผมเป็นคนแบบเวอร์ชั่นแรกก็คือพูดตรงๆ คือกินเหล้า สูบบุหรี่ เคยติดยาด้วย เคยทำทุกอย่างที่ไม่ดี จนกระทั่งผมมาเป็นคริสเตียน ผมทำไม่ลง ทำไม่ได้ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ที่ทำไม่ได้ไม่ใช่เป็นกฎว่าห้ามทำ แต่ทำไม่ได้เพราะผมรู้สึกผมรักพระเจ้ามากจนไม่อยากจะทำ เมื่อก่อนผมโกหกเป็นว่าเล่นเลยโดยไม่รู้สึกผิด ผมโกหกพี่ได้ โกหกแนทได้ แต่โกหกพระเจ้าไม่ได้ มีใครบางคนดูผมอยู่เหมือนกัน นั่นคือจุดเปลี่ยน"
แล้วตอนที่เข้าไปในชีวิตเป๊กที่กำลังอินกับพระเจ้าแล้วพูดเกี่ยวกับพระเจ้าหมดเลยตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง ?
แนท : "มาเป็นพารากราฟ แล้วหนูก็คุยได้อยู่อาทิตย์เดียว เริ่มกลัว เริ่มรู้สึกว่านี่อยู่ในลัทธิอะไรหรือเปล่า ก็เลยหายไปเลย ชิ่งแบบไม่คุยเลย"
เป๊ก : "มันมีจุดชิ่งตอนที่เปิดเพลง"
แนท : "หนูเป็นคนชอบฟังเพลงร็อคมาก เพราะพ่อหนูเป็นชาวร็อค พอหนูขึ้นไปบนรถพี่เป๊กเค้าเปิดเพลงนมัสการเป็นเพลงคริสเตียน ก็ฟังแล้วรู้สึกว่ามันคนละแนวกับเรามาก แล้วหนูก็เปิดเพลงแนวหนูให้เค้าฟัง เค้าบอกว่าเพลงที่หนูฟังมันเป็นเพลงที่ฟังแล้วเป็นโรคซึมเศร้า เครียด เดี๋ยวจะไปฆ่าตัวตาย เป็นเพลงผีอะไรแบบนี้ ว่าเพลงหนูสารพัดเลย หนูก็โกรธมาก ก็เลยแบบไม่คุยเลย หายไปเลย พอเค้าทุกเราก็เริ่มอ่านแล้วไม่ตอบอยู่ 5-6 วัน เราก็ไม่คุยๆ จนพี่เป๊กทักกลับมายาวมากเหมือนกัน ประมาณว่าพี่รู้แล้วว่าน้องยังไม่พร้อมจะคุยกับพี่ ไม่เป็นไรพระเจ้ามีเวลาของพระเจ้า วันนึงถ้าน้องใช่คู่พระพรของพี่วันนึงเราจะกลับมาคบกัน"
แล้วกลับมั้ย ?
แนท : "เขาบอกว่าอีก 2 ปีถ้าน้องยังไม่มีใครจะมาจีบใหม่"
แล้วเราเป็นไง ?
แนท : "จังหวะนั้นก็ชิล เพราะเราไม่อยากคุยกับใคร ตอนนั้นคิดว่าเขาคงไม่ใช่ แล้วหนูก็ไม่คุย"
แล้วเกิดอะไรขึ้น ?
แนท : "หลังจากนั้นประมาณ 2-3 อาทิตย์ ช่วงนั้นหนูเป็นโรคซึมเศร้าหนักมาก แล้วพี่เป๊กเค้ารู้อยู่แล้วว่าหนูเป็นโรคซึมเศร้าเวลาคุยกันเค้าจะชอบส่งคำพูดดีๆมาหนุนใจหนูว่าให้หนูอธิษฐานกับพระเจ้าแล้วหนูจะหายเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งตอนนั้นหนูไม่เชื่อทุกอย่างที่เขาพูดเลย หนูรู้สึกว่ามันไม่มีจริง เรื่องพวกนี้ไม่มีจริง หนูเป็นคนไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ จนกระทั่งวันนึงที่หนูไม่ไหวแล้ว ช่วงนั้นหนูน้ำหนักเหลือ 39 กิโลกรัม"
การที่เราเป็นโรคซึมเศร้ามันเกิดจากอะไร ?
แนท : "เครียดอะไรหลายๆอย่างด้วย ทำงานเยอะด้วย เมื่อก่อนติดน้ำมันกัญชามากถ้าไม่หยดคือจะหลับไม่ได้ ต้องใช้"
มันเกี่ยวกับความรักครั้งเก่าๆ มั้ย เป็นส่วนหนึ่งมั้ย ?
แนท : "แนทว่ามันคงเป็นส่วนหนึ่งค่ะ พอเราเริ่มผิดหวังจากความรักมากหนักๆ มันกลายเป็นว่ามันตกค้างอยู่ในใจของเราโดยไม่รู้ตัว เพราะเรารู้สึกว่าเราขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็กๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว แล้วพอแนทเริ่มเป็นหนักถึงขนาดไปถ่ายละครแล้วหน้าเบี้ยวไปข้างนึง หน้าข้างขวามันตกลงมา แนทก็เลยไปหาหมอเค้าบอกว่าเป็นเส้นปลายประสาทอักเสบ ไม่มียารักษาได้ ช็อตไฟฟ้าก็ไม่หาย ตอนนั้นเป็นหนักน้ำหนักลด เริ่มอาเจียน บ้านหมุนเพราะว่านอนไม่ได้"
เคยคิดฆ่าตัวตายด้วยเหรอ ?
แนท : "คิดค่ะ วันนั้นแหละ ที่คิดว่าอยากหลับไปแล้วไม่ต้องฟื้นขึ้นมาก ช่วงนั้นหนูก็หยดเยอะ ก็คิดว่าอยากให้มันหลับไปเลย"
ขอโทษนะ แล้วได้ทำมั้ย ?
แนท : "ยังไม่ทันได้ทำค่ะ คำพูดของพี่เป๊กที่ได้พูดไว้มันแว้บเข้ามาในจิตใจเรา เขาบอกว่าพระเจ้ามีอยู่จริง ถ้าไม่เชื่อเค้าไม่เป็นไร ให้ลองอธิษฐานดู หนูจำคำพูดเขาได้แม่นเลยว่าพระเจ้าจะตอบแล้วหนูก็อธิษฐานที่แบบหมดความหวังสุดท้ายแล้วว่า ถ้าพระเจ้าอยากให้ลูกมีชีวิตอยู่แล้วถ้าพระเจ้ามีอยู่จริง บอกลูกทีว่าลูกมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ตอนนี้ลูกไม่อยากอยู่แล้ว"
แล้วท่านตอบว่ายังไง ?
แนท : "แล้วหลังจากนั้นไม่กี่วัน หนูเริ่มรู้สึกอยากคุยกับพี่เป๊กแปลกๆ จากที่ไม่อยากคุยเลย เรารู้สึกว่าเราอยากรู้จักเขา ทั้งๆที่เราไม่อยากคุย พูดง่ายๆ ไม่ชอบเลยในตอนแรก จนโทรไปถามพัดว่าพี่เป๊กเป็นยังไงบ้างสบายดีมั้ย เขาก็บอกว่าให้โทรเลย คุยเลย เราก็แบบจะดีหรอเพราะไม่เคยโทรหาพี่เป๊กเลย จนสุดท้ายก็โทรไป พี่เป๊กก็แปลกใจมากที่โทรมา"
เป๊ก : "ทักมาชวนไปดูหนัง รู้สึกในใจว่าอาจจะเป็นเวลาที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้แล้ว พอน้องทักมาก็พาไปเดทเลย พาไปที่โบสถ์ คือผมรู้ว่าน้องเขาเป็นซึมเศร้า สมัยนี้คนเป็นซึมเศร้าฆ่าตัวตายกันเยอะมาก ผมก็เลยพาเขาไปที่โบสถ์ให้รุ่นพี่ผมก็คือพี่แชมป์ พี่เค้าวางมืออธิษฐานให้ พอหลังจากวางมืออธิษฐานเสร็จน้องเขาก็ร้องไห้น้ำตาไหลคือเป็นอะไรไม่รู้ รู้ตัวอีกทีหายเลย"
วันนั้นหายเลยเหรอ ?
แนท : "ใช่ หายเลย ปกติหนูนอนไม่เคยหลับเลย แต่หลังจากกลับมาบ้านวันนั้นจนถึงวันนี้ หนูนอนหลับทุกคืน หนูเลิกใช้ยานอนหลับ ยาทุกอย่างที่เคยใช้ หนูเลิกใช้หมด ยาทุกอย่างที่ใช้รักษาหนูทิ้งหมด คือมันหายหมดเลย คือหายแบบอัศจรรย์เลย หนูก็เลยรู้เลยว่าสิ่งที่พี่เป๊กพูดมีจริง"
ผู้ชายคนนี้อยากจะใช้เวลาด้วยตลอดชีวิตจริงหรือเปล่า ?
แนท : "ตอนนั้นหนูรู้สึกเหมือนต้นไม้ที่ตายไปแล้ว รู้สึกเราไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่พอเจอเขาเหมือนเขามาเติมเต็มชีวิตเราเป็นพระอาทิตย์ที่คอยให้แสงสว่างกับต้นไม้ หนูรู้สึกฟื้นจากความตายมันมีชีวิตชีวาขึ้นมาเพราะเขา"
เป๊ก : "ผมรู้สึกรักเขามากขึ้นทุกๆ วันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแนทหรือคนรอบข้างที่ช่วยการที่ทำให้คนได้เจอแสงสว่างมันเป็นเรื่องที่ดี วันที่ผมเจอเขาผมถามพระเจ้าว่าคนนี้คือคู่พระพรของผมหรือเปล่า ซึ่งสัญญาณจากพระเจ้าบอกว่าใช่ หลังจากนั้น 6 เดือน 8 เดือน เราก็รอ จนวันนึงเราได้กลับมาคุยกัน หลังจากนั้นก็มีสัญญาณจากพระเจ้าบอกให้แต่งงานเลย"
คบกันกี่เดือนถึงตัดสินใจแต่งงาน ?
เป๊ก : "3-4 เดือน"
ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นถึงต้องแต่งงาน ?
เป๊ก : "ผมนอนแล้วตอนประมาณตี 5 ได้ยินเสียงพระเจ้าว่าให้ผมแต่งงาน คือผมก็แบบใช่หรือเปล่าขอสัญญาณอีกที แล้วก็ได้ยินเหมือนเดิมตอนตี 5 ผมเลยโทรไปบอกเขาเลย"
โทรไปบอกเขาว่า ?
แนท : "แต่งงานกัน หนูช็อกมาก แบบเพิ่งตื่น มันงงคือมีคนมาขอแต่งงานตอนเพิ่งตื่นนอน ด้วยความช็อกแต่มันดีใจสุดๆ เลยก็ตอบไปว่าแต่งค่ะ"
พ่อแม่ว่ายังไงบ้าง ?
แนท : "พอหนูบอกตกลงแต่งก็ถามเขาว่าเมื่อไหร่พี่ เขาบอกว่าแต่งเลย หนูก็อึ้งๆ คิดในใจว่าพ่อแม่เราจะว่ายังไงเพราะมันเร็วมาก หนูก็ไปบอกพ่อกับแม่ แม่ก็ถาว่าไม่เร็วไปเหรอ พ่อหนูก็พูดเหมือนกันว่าเร็วไปหรือเปล่าเพิ่งรู้จักกันเองไม่ใช่เหรอ ตอนแรกก็เหมือนทีท่าว่าจะไม่ให้แต่ง เพราะหนูยังทำงานถ่ายละครอยู่เลย แล้วพ่อแม่เขาจะมองว่าเราเป็นเด็กเสมอ ห่วงแบบห่วงมาก คือพ่อบอกวาไม่ให้แต่ง ให้อยู่คุยกันไปแบบนี้ไม่ต้องรีบแต่ง ตอนแรกก็เสียใจมาก ร้องไห้ เพราะอยากให้ทุกอย่างมันแฮปปี้เอนดิ้ง ก็แต่อธิษฐานอย่างเดียวเลยทำอะไรไม่ได้"
พอบอกพี่เป๊กว่าพ่อไม่ให้แต่งพี่เป๊กว่ายังไง ?
แนท : "พี่เป๊กบอกว่าไม่เป็นไรพี่จะแต่ง"
เป๊ก : "คือพอผมได้ยินเสียงจากพระเจ้าแล้วผมเชื่อว่าเดี๋ยวจะมีทางซักทางนึงแหละ"
แล้วทำยังไงเข้าไปสู่ขอมั้ย ?
เป๊ก : "สุดท้ายแนทก็พาผมไปเจอพ่อ จริงๆ ก็เจอกันบ้างแล้ว เจอกันหลายรอบอยู่ เหมือนพ่อก็สัมผัสได้ว่าผมไม่ได้เหมือนผู้ชายที่จะมาหลอกลูกเขา"
สุดท้ายพ่อก็ยอม ?
แนท : "ยอม สุดท้ายพ่อก็บอกหนูว่า พ่อรักหนูมาก ที่ไม่อยากให้แต่งเพราะเป็นห่วงกลัวหนูจะผิดหวังอีก กลัวโดนทิ้งซ้ำอีก แต่พอรู้จักพี่เป๊กเขาก็รู้แล้วหละว่าพี่เป๊กรักพระเจ้ามาก"
แต่ก็ไม่พ้นดราม่าท้องก่อนแต่ง เรามานับเดือนกันเลยดีกว่า แต่งเดือนไหน ?
แนท : "แต่งวันที่ 22 กันยายน ตอนนี้ท้อง 4 เดือนค่ะ ท้องเมื่อต้นปี"
แพลนว่าจะมีลูกกี่คน ?
เป๊ก : "ตอนนี้ยังไม่ได้แพลนอะไรเลย"
ตอนนี้ตั้งชื่อหรือยัง ?
เป๊ก : "ตั้งแล้วถ้าชื่อเล่นชื่อน้องเร ชื่อเต็มว่าเรม่าความหมายก็คือพระคำของพระเจ้า คำพูดของพระเจ้า ชื่อจริงก็คือรัฐชา ชื่อพ่อแม่ผสมกัน ผมรัฐภูมิ แนท ณัฐชา"
เคยมีเวลาเปิดใจแล้วบอกรักกันมั้ย ?
แนท : "บอกตลอด"
เป๊ก : "ขอบคุณที่เชื่อพี่ ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตของพี่ มาทำให้ความฝันของเราทั้งสองคนเป็นจริง ขอบคุณที่อดทนแม้ในยามยากลำบาก แม้ในยามที่เรามีความสุขก็อยู่ด้วยกัน ไม่ทิ้งกัน นี่คือการทดสอบความรักที่แท้จริง พี่รู้สึกว่าเสียงของพระเจ้าไม่เคยผิด รักที่รักมาก"
แนท : "รักพี่ค่ะ"
ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.45-14.45 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ