อึ้ง!หมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้มา52ปี ทั้งที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม

อึ้ง!หมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้มา52ปี ทั้งที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม

อึ้ง!หมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้มา52ปี ทั้งที่อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นร.จุดตะเกียงอ่านหนังสือ-รีดผ้ายังใช้เตาถ่าน

เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นายไพรัตน์ คำดี อายุ 36 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านกุดปลาหวี หมู่ 4 ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่ามีครอบครัวชาวชุมชนหนองกอกซึ่งเป็นราษฎรพื้นที่ หมู่ 4 ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีไฟฟ้าใช้มานานกว่า 52 ปี

นายไพรัตน์ เล่าถึงความเป็นมาของชุมชนหนองกอกว่า ปี 2496 มี พลทหารเลื่อน จ้อยสกุล ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกสงครามอินโดจีน ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว กลับจากสมรภูมิรบ ไม่มีที่ดินสร้างบ้านและทำกินจึงได้ไปแจ้งกำนัน ต.บ่อทองในขณะนั้น คือ นายประทุม สำราญกิจ ได้อนุญาตให้พลทหารเลื่อน จ้อยสกุล พาครอบครัวและลูก ๆ ไปสร้างบ้านเรือนอยู่ที่ด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านกุดปลาหวี โดยได้ออกหนังสือ ภบท.6 เลขที่สำรวจ182 มีชื่อนายเลื่อน จ้อยสกุลเป็นเจ้าของที่ดิน มอบไว้เป็นหลักฐาน และเสียภาษีดอกหญ้าให้แก่ทางราชการโดยตลอด ต่อมาในปี พ.ศ.2518 ต.บ่อทองได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวกว่า 2,500 ไร่เป็นที่สาธารณะประโยชน์

นายไพรัตน์ กล่าวว่า ระหว่างปี 2539 -2540 เริ่มมีผู้คนภายนอกเข้ามาจับจองที่ดินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีกลุ่มนายทุนหลายกลุ่มเข้ามาบุกรุกที่ดิน และทางราชการสมัยนั้นได้ออกโฉนดให้ จนที่ดินเหลือกว่า 900 ไร่ต่อมา แต่ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวที่ทำกินมาบนผืนเดียวกัน ทางราชการกลับอ้างว่าเป็นที่สาธารณะออกเอกสารสิทธิ์ให้ไม่ได้ จึงไม่สามารถต่อไฟฟ้าเข้าหมู่บ้านได้ เป็นภาพที่น่าเวทนา เมื่อใครก็ตามที่เข้ามาในหมู่บ้านนี้ ที่อยู่ไม่ไกลจากนิคมอุตสาหกรรม เลยจากถนนสายสุวรรณศรเข้ามาแยกบ่อทองแค่เกือบ 500 เมตร และแยกไปตามถนนลูกรังอันขรุขระ จะพบครอบครัวย้อนยุคสังคมไทยจากปัจจุบันไปไกล

ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านกุดปลาหวี กล่าวว่า "ชาวชุมชนหนองกอก ทุกบ้าน จำนวน 21 ครัวเรือน ชาวบ้านรวม 71 คน หลังพระอาทิตย์ตกดินความมืดเข้าครอบงำทุกหลังคาจะจุดตะเกียง เด็ก ๆ นักเรียนจะมารวมกันอ่านหนังสือ ทำการบ้าน โดยจุดตะเกียงหลาย ๆ ดวงให้แสงสว่างเพียงพอ หากวันไหนลมแรงหรือพายุฝนใหญ่ วันนั้นการบ้านหรือหนังสือไม่ต้องทำไม่ต้องอ่านทบทวน และในการไปโรงเรียนของเด็กๆ แทนที่จะได้รีดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แต่นักเรียนเหล่านี้ไม่ได้เคยรีดเลย เพราะในหมู่บ้านมีเตารีดแบบโบราณเป็นทองเหลืองที่ใช้ถ่านไม้ แค่ 2 ตัวหมุนเวียนใช้กัน หากใช้ไฟแรงก็ต้องคอยพรมน้ำ หรือเอาใบตองรองให้ลื่น หากไฟแรงเกินเป็นอันเสื้อผ้าไหม้" นายไพรัตน์ กล่าวและว่า

"เมื่อไม่มีไฟฟ้า เครื่องอำนวยความสะดวก ทีวี พัดลม ตู้เย็น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า พวกเขาไม่เคยสัมผัส ในหมู่บ้านชุมชนนี้ มีทีวีสีขนาด 14 นิ้วอยู่เครื่องเดียว เวลาจะใช้ต้องปั่นไฟฟ้าด้วยรถไถนา ชมข่าวสาร ความบันเทิง ต้องดูรวมกันเพียงเครื่องเดียว ช่องเดียวเหมือนมีมหรสพอะไร และจำกัดเวลาไม่อิสระ เคยนำชาวบ้านร้องเรียนอำเภอกบินทร์บุรี ร้องเรียนองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อทอง(อบต.) และสำนักนายกรัฐมนตรีในปี 2549 แต่ไม่เป็นผลแต่อย่างใด สิ่งที่จะสะท้อนปัญหานี้มีเพียงสื่อมวลชนเท่านั้น" นายไพรัตน์ กล่าวในที่สุด

ด้านนางระเบียบ จ้อยสกุล อายุ 52 ปี เลขที่ 24/ 1 หมู่ 4 ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า "บิดาคือนายเลื่อน จ้อยสกุล มีลูกรวม 10 คน และทั้ง 21 ครอบครัว ล้วนเป็นลูกหลานเข้ามาถือครองที่ดินดังกล่าวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 ภายหลังปี 2517-2518 ทางราชการได้ประกาศเป็นที่สาธารณะ ทั้ง ๆ ที่ตลอดเวลานั้นบิดามีเอกสารคือหนังสือ ภบท.6 เลขที่สำรวจ182มีชื่อนายเลื่อน จ้อยสกุล เป็นเจ้าของที่ดินมอบไว้เป็นหลักฐาน โดยตลอดช่วงระยะเวลาได้เสียภาษีดอกหญ้าให้แก่ทางราชการโดยตลอด

"สิ่งที่ต้องการให้ลูกหลานรุ่นหลังในปัจจุบันคือให้เขาได้มีไฟฟ้าใช้ เพราะทุกวันนี้ลูกหลานที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมจะพากันไปเช่าบ้านที่ด้านนอกในเมืองเขต อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เนื่องจากที่บ้านไม่มีไฟฟ้าเวลาไปทำงานต้องชุดเรียบร้อย หรือต้องใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ต้องฝากลูก ๆ หลานให้ตายายเลี้ยงทั้ง ๆ ที่อยู่เขตพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีแท้ ๆ ทำให้ครอบครัวไม่อบอุ่น สิ่งที่ตลอดชีวิตต้องการนี้คือไฟฟ้า" นางระเบียบ กล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมชีวิตชาวชุมชนหนองกอก ดำรงชีวิตแบบเรียบง่ายต่างจากในเมืองหรือเขตอุตสาหกรรม เวลารับประทานอาหารจะรวมกันกินอยู่แบบครอบครัวใหญ่แบ่งปันมีน้ำใจ ทีวี.ที่ดูข่าว - บันเทิงมีเครื่องเดียวที่บ้านนายณรงค์ ศิริล้น อายุ 48 ปี ที่ใช้ปั่นไฟฟ้าโดยรถไถเดินตามโดยปั่นไฟฟ้าเฉพาะดูทีวีช่วงเวลา 18.00 - 22.00 น. อาชีพหลักส่วนใหญ่ทำไร่ / ทำนา รับจ้างทั่วไป จากที่มืดมาต้องดับตะเกียงนอนแต่หัวค่ำจึงไม่แปลกที่ชุมชนหนองกอกต้องมีลูกมากถึง 21 ครอบครัว ประชากรกว่า 71 คน ขอใครไม่ได้ชาวบ้านบอกว่าขอนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะสงสารพวกเขาคนไทยด้วยกันด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook