เปิดใจ นักเรียนหญิง ม.3 ไปเสียค่าปรับที่โรงพัก ถูกตำรวจกอดเอว-ขอจับอวัยวะเพศ

นักเรียนหญิง ม.3 เล่านาทีช็อก ไปเสียค่าปรับจราจรที่โรงพัก แต่ถูกชายแต่งเครื่องตำรวจครึ่งท่อนลากขึ้นไปชั้น 2 ก่อนโอบกอดเอวและขอจับอวัยวะเพศ 

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความเตือนภัย โดยระบุว่า ไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกับน้องสาว แต่ระหว่างนั้นตนถูกชายแต่งกายเครื่องแบบตำรวจครึ่งท่อนและมีอาการลักษณะคล้ายคนเมา ใช้มือโอบเอวแล้วลากขึ้นไปชั้น 2 เข้าไปในห้องที่เสียค่าปรับ ก่อนที่จะมีการสอบถามพูดคุยกัน แล้วตำรวจได้ขอจับอวัยวะเพศ 

ล่าสุด (11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี และ นางบี (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นตากับยายของผู้เสียหาย ได้พาหลานสาวสองคน อายุ 16 ปี และ อายุ 14 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กัมปนาท อรรถวิลัย ร้อยเวร สภ.สหัสขันธ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับตำรวจคนหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบยศและตำแหน่ง ที่ก่อเหตุดังกล่าว

นางสาวซี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมา ตนพร้อมกับน้องสาว ได้เดินทางมาจ่ายค่าปรับที่โรงพักในข้อหาไม่สวมกันน็อก โดยได้เดินเข้าไปสอบถามตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งสวมชุดเครื่องแบบครึ่งท่อน สภาพคล้ายกับคนเมาสุราอยู่ที่ชั้นล่าง ว่าไปจ่ายค่าปรับได้ตรงไหน

ซึ่งตำรวจคนนี้ก็บอกว่าเสียค่าปรับอยู่ที่ชั้น 2 แต่วันนี้เป็นวันหยุด ตนจึงกำลังจะกลับออกจากโรงพัก แล้วมาเสียค่าปรับใหม่วันหลัง แต่อยู่ๆ ตำรวจคนนี้กลับเดินมาโอบกอดเอวของตนไว้แล้วพาตัวขึ้นไปชั้น 2 โดยมีน้องสาวเดินตามหลังมา พร้อมกับลากตัวเข้าไปในห้องเปรียบเทียบปรับ ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครอยู่ในห้อง ก่อนที่ตำรวจคนดังกล่าวจะยืนขวางประตูทางออกไว้ พร้อมกับขอจับอวัยวะเพศของตน

ซึ่งขณะนั้นตนตกใจมากร้องไห้จนทำอะไรไม่ถูก จึงรวบรวมสติตัดสินใจรีบผลักประตูออกมา แล้วรีบพาน้องสาววิ่งลงบันไดไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ชั้นล่างว่าถูกตำรวจคนนี้ลวนลาม จากนั้นได้โทรศัพท์ไปหาตาและยาย และเล่าให้พี่ชายฟัง ก่อนจะพากันมาแจ้งความในครั้งนี้ ซึ่งส่วนตัวไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นที่โรงพักได้

ด้าน น้องสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนเห็นเหตุการณ์โดยตลอดและตกใจอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดว่าโรงพัก ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่กลับมามีพฤติกรรมในลักษณะนี้ จึงอยากให้ตำรวจซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาให้ความเป็นธรรม และดำเนินการอย่างถึงที่สุด

ตายายพาหลานสาวเข้าแจ้งความ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ญาติได้พาหลานผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่โรงพักนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามห้ามสื่อมวลชนไม่ให้ถ่ายภาพ พร้อมกับปิดประตูล็อกไม่ไห้เข้าไปข้างใน และไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆ

ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.พุฒินันท์ อำพันธ์ ผู้กำกับการ สภ.สหัสขันธ์ เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าว โดยทาง พ.ต.อ.พุฒินันท์ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว และให้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ ซึ่งจะมีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จต่อไป