หนุ่มเครียด ไม่ได้เงินเยียวยา 5,000 บาท ปีนเสาโทรศัพท์หวังจบชีวิต
เมื่อเวลา 13.40 น. วานนี้(11 พ.ค.63) เกิดเหตุหนุ่มใหญ่วัย 45 ปี ชาวอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เกิดปัญหาเครียดรุมเร้า ตัดสินใจปีนเสาโทรศัพท์สูงขึ้นไปนั่งอยู่บนยอดเสา พยายามจะฆ่าตัวตาย ชาวบ้านผู้พบเห็นรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี เพื่อให้การช่วยเหลือ หลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางเข้าช่วยเหลือทันที
ซึ่งที่เกิดเหตุพบเป็นเสาโทรศัพท์ ความสูงประมาณ 20 เมตร ทั้งอยู่ภายในซอยบ้านใหม่ เขตเทศบาลบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ทราบชื่อคือ นายสามารถ อายุ 45 ปี เกาะและปีนป่ายอยู่บนเสาโทรศัพท์ เป็นที่น่าหวาดเสียวของชาวบ้านที่กำลังยืนมุงดู โดยนายสามารถ อาศัยอยู่กับครอบครัวและแม่ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ภายในห้องเช่า เกิดความเครียด เพราะตกงานในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีรายได้ที่จะนำมาช่วยเหลือดูแลครอบครัว ประกอบกับมีปัญหากับภรรยา ทั้งนี้นายสามารถได้ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ในโครงการเราไม่ทิ้งกัน เพื่อที่หวังจะนำมาใช้จ่ายภายในครอบครัว แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับสิทธิ์ ทำให้นายสามารถเกิดการเครียดจนหาทางออกไม่ได้ ห้องเช่าก็ไม่มีเงินจ่าย ไม่มีเงินที่จะเลี้ยงดูลูกอีก 3 คน รวมไปถึงแม่ที่ป่วยติดเตียงด้วย จึงตัดสินใจมาปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพื่อหวังที่จะฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจ พยายามเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่เป็นผล จึงได้ไปพาภรรยา ลูกทั้ง 3 คน และญาติมาช่วยกันเกลี้ยกล่อม
โดยที่ทางด้าน พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้พูดโทรโข่งได้สัญญาว่าจะมอบเงินจำนวน 5,000 เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น พร้อมกันนี้ทางด้าน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐได้เดินทางมา พร้อมจะให้การช่วยเหลือประสานในเรื่องของสิทธิ์เงินเยียวยา 5,000 บาทให้ ทำให้นายสามารถตัดสินใจลงมาด้วยอาการอ่อนเพลีย
หลังจากที่นายสามารถลงมาถึงพื้นด้วยความปลอดภัย ได้ยกมือไหว้ขอโทษต่อเจ้าหน้าที่และโอบกอดลูกทั้ง 3 คน และก้มลงกราบ พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่มอบเงินสดจำนวน 5,000 บาท เพื่อช่วยเหลือนายสามารถและครอบครัว ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านโป่งเพื่อตรวจเช็คร่างกายต่อไป