เกาหลีใต้เผชิญ COVID-19 ระลอกใหม่ พร้อมกระแสเกลียดชังเกย์

เกาหลีใต้เผชิญ COVID-19 ระลอกใหม่ พร้อมกระแสเกลียดชังเกย์

เกาหลีใต้เผชิญ COVID-19 ระลอกใหม่ พร้อมกระแสเกลียดชังเกย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีศักยภาพในการรับมือกับโรค COVID-19 อย่างเกาหลีใต้ ต้องเผชิญกับสถานการณ์การระบาดระลอกที่สอง หลังจากมีการพบผู้ติดเชื้อจากย่านเริงรมย์ “อีแทวอน” ในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ แต่ปัญหาที่ตามมา ซึ่งหนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน คือ “กระแสเกลียดกลัวกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ” ที่ส่งผลให้ทางการไม่สามารถสืบสวนโรคและตรวจหาเชื้อได้ เนื่องจากกลุ่มเกย์ที่เคยเข้าใช้บริการสถานบันเทิงในย่านอีแทวอน ไม่ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เพราะกลัวว่าจะต้องเปิดเผยตัวตน และถูกกระแสสังคมอนุรักษ์นิยมในประเทศโจมตี

รายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ หรือ KCDC ระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 29 คน จากทั้งหมด 35 คน มีความเกี่ยวข้องกับย่านอีแทวอน ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของชาวเกย์ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีความเกี่ยวข้องกับคลับในย่านดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 86 คน การค้นพบคลัสเตอร์การระบาดครั้งนี้ นอกจากจะสร้างความหวาดกลัวเกี่ยวกับเชื้อไวรัสแล้ว ยังโหมกระพือความเกลียดชังกลุ่ม LGBTQ+ ให้รุนแรงยิ่งขึ้น และสื่อมวลชนก็มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้

หลังจากที่สื่อท้องถิ่นอย่าง Kookmin Ilbo ที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนจักร รายงานว่า ธุรกิจที่เปิดให้บริการแก่ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงวันหยุดยาวนั้นเป็นคลับเกย์ สื่อมวลชนในเกาหลีใต้จำนวนมากก็หันมาเล่นประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดเผยทั้งตัวตนของผู้ใช้บริการคลับ รวมทั้งอายุและสถานที่ทำงานของคนกลุ่มนี้ด้วย

ความบ้าคลั่งของสื่อมวลชนยกระดับไปอีกขั้น เมื่อมีการสืบพบว่าผู้ติดเชื้อคนหนึ่งเคยใช้บริการห้องซาวนาของ LGBTQ+ ในย่านกังนัม ส่งผลให้ข่าวสารและข้อมูลที่มีเนื้อหาเกลียดกลัวผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศแพร่กระจายไปตามหน้าหนังสือพิมพ์และโลกออนไลน์ ส่งผลให้กลุ่มเกย์รู้สึกหวาดกลัวที่จะเข้ารับการตรวจ จนกระทั่งคิดฆ่าตัวตาย โดยทางการเกาหลีระบุว่า ขณะนี้มีผู้ที่เคยไปใช้บริการไนต์คลับดังกล่าว จำนวน 3,112 คน ไม่สามารถติดต่อได้

ลี ยองวู เกย์วัย 30 ปี กล่าวกับสำนักข่าว The Guardian ว่า บริษัทเครดิตการ์ดของเขาได้ส่งข้อมูลการใช้จ่ายของเขาให้กับทางการ เขารู้สึกเหมือนถูกตามล่าและติดกับ หากเขาเข้ารับการตรวจหาเชื้อ บริษัทของเขาก็จะทราบว่าเขาเป็นเกย์ และเขาอาจจะตกงานและถูกสังคมประณาม ทำให้เขารู้สึกเหมือนชีวิตพังทลาย ที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่ตอนนี้เริ่มมีความคิดแบบนั้นแล้ว

ด้านมิน แจยัง วัย 27 ปี กล่าวกับ The Guardian ว่า ก่อนจะเข้ารับการตรวจ เขาต้องฝึกพูดว่าไม่ได้เป็นเกย์เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมโพสต์ภาพนักฟุตบอลและศิลปินฮิปฮอปลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ดูเหมือนเป็นชายแท้ รวมทั้งเตรียมหางานใหม่ ในที่สุดก็พบว่าเขาไม่ได้ติดเชื้อ แต่เขาก็ร้องไห้ ไม่ใช่เพราะดีใจที่ไม่ติดเชื้อ แต่เป็นเพราะเขาเกลียดการเป็นเกย์ในประเทศนี้

ลี จองกูล ผู้อำนวยการกลุ่ม Chingusai ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของชาวเกย์ในเกาหลีใต้ กล่าวกับ The Guardian ว่า องค์กรได้ให้คำปรึกษาและการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนา พร้อมระบุว่า ทางการกรุงโซลได้ขอให้องค์กรช่วยสนับสนุนให้ชาวเกย์ที่เคยใช้บริการไนต์คลับในย่านอีแทวอน เข้ารับการตรวจหาเชื้อ

“ผมเข้าใจว่าหน่วยงานราชการต้องการหาวิธีการที่สะดวกในการทำงาน แต่ก็ต้องเข้าใจว่า ชาวเกย์ในเกาหลีใต้ไม่ได้อยู่ในสังกัดของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พวกข้าราชการรับมือกับสถานการณ์นี้เหมือนกับสถานการณ์ของลัทธิชินชอนจี แต่เราไม่ใช่ลัทธิ”

สำหรับท่าทีของรัฐบาลที่มีต่อสถานการณ์นี้ นายกรัฐมนตรีชอง เซ-คยูน ได้เรียกร้องให้ประชาชน “งดเว้นการวิพากษ์วิจารณ์ชุมชนดังกล่าว เนื่องจากการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ช่วยให้ทางการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้” ส่วนหน่วยงานราชการในพื้นที่ต่างๆ ก็ออกมาตรการจูงใจให้ประชาชนยอมตรวจหาเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดคยองกี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้ออาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ก็มีแนวทางให้ประชาชนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยระบุแค่พื้นที่การระบาดที่พวกเขาเพิ่งไปมา ไม่ต้องระบุชื่อสถานบริการที่เข้าใช้บริการ หรือกรุงโซล ที่นอกจากจะรับรองว่าจะไม่มีการเปิดเผยตัวตนของผู้ที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ ทางการจะมีการปรับเงินเป็นจำนวน 2 ล้านวอน สำหรับผู้ที่ไม่ยอมเข้ารับการตรวจ และเจ้าหน้าที่พร้อมตำรวจจะเดินทางไปที่บ้านของผู้ที่ไม่ยอมเข้ารับการตรวจหาเชื้อด้วย

ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ COVID-19 ได้ที่นี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook