พบหลักฐานส.อ.สมชายมือลั่นไกยิงสนธิ
ตร.พบหลักฐานการโทรศัพท์ก่อนออกหมายจับ ส.อ.ป่าหวาย ร่วมทีม จ่าปัญญา ด้านเจ้าตัวรู้แกวเผ่นหนีทัน ธานี เรียกชุดสืบ-สอบประชุม 11 ส.ค. แบ่งทีมใหม่ลุยสางคดีต่อ ทนาย จ.ส.อ.ปัญญา ผู้ต้องหาลอบยิงสนธิ อุทธรณ์แล้ว หลังศาลอาญาไม่รับฟ้อง พล.ต.อ.ธานี กับทีมสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่มิชอบกลั่นแกล้ง ขณะที่อีก 3 วันศาลนัดฟังคำสั่งรับอุทธรณ์หรือไม่ บัญญัติ จิตรเย็น ทนาย เผย จ่าปัญญา ยังไม่พร้อมมอบตัว ห่วงความปลอดภัย - เกรงไม่ได้รับความยุติธรรมสู้คดี
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า จากแนวทางการสืบสวนพบว่า ส.อ.สมชาย บุญนาค สังกัดกองร้อยกองบังคับการกรมรบพิเศษที่ 3 ค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ถูกออกหมายจับล่าสุดนั้น เป็นทหารสังกัดเดียวกับ จ.ส.อ.ปัญญา สิงเหรา ที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ จากการสืบสวนโดยตรวจสอบการใช้โทรศัพท์พบว่า ส.อ.สมชาย ร่วมอยู่ในทีมลอบยิงครั้งนี้ด้วย และการสืบสวนทราบยังทราบด้วยว่า ขณะนี้ ส.อ.สมชาย ได้หลบหนีไปแล้ว หลังจากที่เพื่อนร่วมทีมถูกออกหมายจับไปก่อนหน้า เพราะทราบว่าตัวเองจะต้องถูกออกหมายจับในไม่ช้า
โดยก่อนหน้านี้พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ได้เรียก พล.ต.ท.เจตต์ มงคลหัตถี ผบช.กมส. และพล.ต,ท.จรัมพร สุระมณี จตร.(สบ.8) เข้าหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการรวบรวมพยานหลักฐานคดีลอบยิงนายสนธิ โดยมีการนำรายละเอียดพยานหลักฐานที่ได้มาพิจารณา เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง และได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน นำพยานหลักฐาน เสนอต่อศาลอาญา ขออนุมัติจับกุม ส.อ.สมชายดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าตรวจค้นเป้าหมายบ้านพักและคน สนิท โดยมีพยานหลักฐานยืนยันว่า ส.อ.สมชาย เป็นผู้ลั่นไกยิงเป้าหมายในช่วงวันเกิดเหตุ
ขณะนี้มีรายงานว่า วันที่ 11 สิงหาคม พล.ต.อ.ธานี จะเรียกชุดสืบสวนทั้งหมดมาพบที่สำนักงานอาคาร 1 ตร. เพื่อวางแผนพร้อมจัดแบ่งทีมงานใหม่เพื่อสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ต่อไป
ทนาย"จ่าปัญญา"อุทธรณ์แล้ว หลังศาลอาญาไม่รับฟ้อง
ที่แผนกอุทธรณ์ - ฎีกา ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ส.ค.52 นายบัญญัติ จิตรเย็น ทนายความของ จ.ส.อ.ปัญญา เดินทางมายื่นอุทธรณ์ กรณีที่ศาลอาญา มีคำสั่งเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ไม่รับฟ้องคดีที่ยื่นฟ้องพล.ต.อ.ธานี และ พ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำการอันมิชอบเพื่อจะกลั่นแกล้งบุคคลให้รับโทษทางอาญาโดยไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ,200
นายบัญญัติ กล่าวว่า การยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลอาญาที่ออกมา จึงขอให้ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาหรือคำสั่งกลับคำสั่งศาลอาญาที่ไม่รับฟ้องดังกล่าว โดยให้สั่งศาลอาญารับคดีไว้ไต่สวนมูลฟ้องเพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป ซึ่งคำอุทธรณ์ตนได้ยืนยันตามคำฟ้องที่เคยยื่นต่อศาลอาญาว่า จ.ส.อ.ปัญญา ไม่ได้กระทำผิด และขณะเกิดเหตุลอบยิงตามที่พนักงานสอบสวนอ้างในการออกหมายจับนั้น จ.ส.อ.ปัญญา กำลังร่วมงานทอดผ้าป่าสามัคคี ที่จ.ตราด ซึ่ง จ.ส.อ.ปัญญา มีชื่อร่วมเป็นกรรมการจัดงาน โดยมี พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เป็นประธานจัดงาน และการยืนยันถิ่นที่อยู่ขณะเกิดเหตุ ยังมีทั้งเอกสารจัดงาน และรูปภาพร่วมงานเป็นหลักฐานแสดงด้วย ซึ่งท้ายคำฟ้องก็ได้แนบภาพถ่าย 2 รูปส่งให้ศาลพิจารณาด้วย ทั้งนี้เบื้องต้นศาลอาญา นัดฟังคำสั่งว่าจะรับอุทธรณ์หรือไม่ ภายใน 3 วัน
ส่วนการมอบตัวนั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า ที่ตนได้ประสานกับญาติ จ.ส.อ.ปัญญา ก็ได้แต่เพียงหารือกันเรื่องอุทธรณ์การฟ้องคดี ส่วนการมอบตัวเดิมที จ.ส.อ.ปัญญา ตั้งใจจะมอบตัวเพื่อจะร่วมไต่สวนมูลฟ้องคดี หากศาลรับคดีไว้พิจารณา แต่เมื่อศาลไม่รับฟ้อง จึงทำให้ต้องพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจาก จ.ส.อ.ปัญญา รู้สึกไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งความยุติธรรมที่จะได้รับซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเวลานี้ฝ่ายตำรวจเองก็ยังไม่นิ่ง ไม่รู้ว่าถ้าจะมอบตัวใครจะดูแลความปลอดภัยได้ ดังนั้นการจะเข้ามอบตัวเมื่อใด จ.ส.อ.ปัญญาจึงยังไม่ได้แจ้งผ่านทางญาติมาให้ตนทราบ ซึ่งจะต้องรอสถานการณ์ทั้งทางคดีที่ยื่นฟ้องตำรวจ และการสอบสวนคดีอีกครั้ง โดยขณะนี้ จ.ส.อ.ปัญญา อยู่ในสถานที่ที่ตัว จ.ส.อ.ปัญญาเองรู้สึกปลอดภัย