เด็กหญิง 12 ขวบ ถูกลุงข่มขืน-ป้าสะใภ้ทุบตี ทนมานาน 4 ปี เดินหนีไปตายดาบหน้า
น.ส.กัลยา โพธิ์พยอม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุโขทัย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ นำตัว ด.ญ.หน่อย (นามสมมติ) อายุ 12 ขวบ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.นิกร มงคลประดิษฐ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ให้ดำเนินคดีกับ นายเบิ้ม (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี อาชีพช่างรับเหมาต่อเติมบ้าน ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี
สืบเนื่องจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เด็กหญิงหน่อย อายุประมาณ 8 ขวบ พ่อกับแม่แยกทางกัน โดย ด.ญ.หน่อย อยู่กับแม่ ต่อมาผู้เป็นแม่ถูกจับคดียาเสพติดจึงต้องมาอยู่กับ นายเบิ้ม พี่ชายของแม่และป้าสะใภ้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมักถูกลุงและป้าสะใภ้ดุด่าทุบตีทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จนกระทั่งอายุ 9 ขวบ ช่วงปิดเทอม ป้าสะใภ้ออกไปทำงาน ด.ญ.หน่อย อยู่กับลุงตามลำพัง ต่อมาลุงเรียกให้ ด.ญ.หน่อย ตามเข้าไปในห้องน้ำในบ้าน แล้วสั่งให้ถอดเสื้อผ้า ส่วนลุงก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วสั่งให้นอนลงกับพื้น แล้วลุงเข้ามานอนทับแล้วกอด จูบ แล้วสอดใส่อวัยวะเพศ เจ็บจนร้องไห้และมีเลือดไหล สักครู่จึงหยุด แล้วสั่งไม่ให้นำเรื่องบอกใคร ด.ญ.หน่อย เล่าว่า เวลาป้าสะใภ้ไม่อยู่บ้าน ลุงจะบังคับข่มขืนเป็นประจำ เดือนละ 7-8 ครั้ง เป็นเวลากว่า 3 ปี
จนล่าสุด วันที่ 6 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา ด.ญ.หน่อย โดนบังคับข่มขืนอีก จนทนไม่ไหวเดินร้องไห้ออกจากหมู่บ้านไปตายเอาดาบหน้า คนรู้จักเห็นจึงให้การช่วยเหลือพาไปหาผู้ใหญ่บ้าน
นางธิดารัตน์ ทองเชิด ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เล่าว่าด.ญ.หน่อย มาหาในสภาพร้องไห้ฟูมฟาย พร่ำบอกว่าอยู่ในหมู่บ้านไม่ได้แล้ว จะหนีไปตายดาบหน้า จึงปลอบโยนแล้วค่อยๆสอบถาม เด็กจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง ฟังแล้วตกใจมาก จึงรายงานให้นายกองโทพยุงศักย์ สุวรรณโณ นายอำเภอศรีสัชนาลัยทราบ ทางอำเภอจึงประสานไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัว เข้าให้การช่วยเหลือและมารับตัว ด.ญ.หน่อย ไปดูแลจนสภาพจิตใจ และส่งตัวเด็กผู้เสียหายไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการถูกละเมิดเพื่อเป็นหลักฐาน จากนั้นเมื่อสภาพร่างกายและจิตใจของด.ญ.หน่อย ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จึงพามาแจ้งความดังกล่าว
ด้านนายเบิ้ม ลุงหื่นเมื่อทราบว่ามีการแจ้งความจึงเข้ามอบตัว ที่ สภ.ศรีสัชนาลัย พร้อมให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล ทางเจ้าหน้าหน้าที่จึงปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากเจ้าตัวเข้ามอบตัวไม่มีพฤติการหลบหนี จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป