จับแล้ว! หนุ่มฝ่าเคอร์ฟิวขืนใจป้าวัย 52 เดินหนีตำรวจร่วมร้อยกิโลฯ อ้างแค่กอดจูบ
ตามรวบหนุ่มหื่นฝ่าเคอร์ฟิวบุกใช้กำลังบังคับขืนใจป้าเพื่อนบ้านวัย 52 หลังเดินเท้าไกลกว่า 100 กม. หนีไปขอทำงานกับอดีตนายจ้างที่โคราช ยอมรับเมาบุกเข้าบ้านเหยื่อจริงแค่ลวนลามยังไม่ได้ข่มขืน
(13 พ.ค.63) จากกรณีที่ นายพงษ์เทพ อายุ 33 ปี ซึ่งเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำมาไม่นาน ได้ก่อเหตุบุกงัดหน้าต่างเข้าไปใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน นางเหลือ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านใกล้กันใน ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ขณะนอนหลับอยู่ในห้องคนเดียว เนื่องจากสามีไปทำงานต่างประเทศ และลูกชาย 2 คนไปทำงานต่างจังหวัด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า ของวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เหยื่อฮึดสู้จึงข่มขืนไม่สำเร็จ แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายทั้งตบ ต่อย กระชากผม บีบคอจนร่างกายเขียวช้ำ ทั้งยังข่มขู่จะฆ่ายกครัว หากนำเรื่องไปแจ้งความ จนเหยื่อไม่กล้านอนบ้านเพราะกลัวคนร้ายจะหวนกลับมาทำร้ายหรือก่อเหตุซ้ำอีก
- ล่าไอ้หื่นฝ่าเคอร์ฟิว บุกห้องนอนหญิงวัย 52 ปี พยายามข่มขืน
- แม่เชื่อลูกฝ่าเคอร์ฟิวบุกปล้ำสาวใหญ่ เคยข่มขืนญาติ แต่ไม่ถูกดำเนินคดีเพราะคุยกันได้
ล่าสุด พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ สภ.ชำนิ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายพงษ์เทพ ผู้ต้องหาด้วยตัวเอง หลังสืบทราบว่านายพงษ์เทพ หนีไปหลบทำงานกับอดีตนายจ้างที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ก่อนจะนำตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.ชำนิ
พ.ต.อ.สมชัย ผู้กำกับการ สภ.ชำนิ ระบุว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การว่าวันเกิดเหตุได้เข้าไปในบ้านของนางเหลือ ผู้เสียหายจริง โดยการงัดหน้าต่างปีนเข้าไป เนื่องจากมึนเมาแต่ปฏิเสธว่ายังไม่ได้ข่มขืนแค่ลวนลามด้วยการกอดจูบเท่านั้น ทั้งบอกว่าได้หลบหนีด้วยการเดินเท้าจากบ้านที่ อ.ชำนิ ไปที่ อ.ครบุรี ไกลกว่า 100 กิโลเมตร โดยการเดินลัดเลาะตามทุ่งนาไปเรื่อย และนอนตามกระท่อม กินน้ำตามบ่อ และมาม่าที่ติดตัวไปด้วยกว่า 30 ซองประทังความหิว ก่อนจะไปขอทำงานกับอดีตนายจ้างได้เพียงวันเดียว กระทั่งตำรวจสืบทราบจึงได้ติดตามจับกุมตัว และมั่นใจว่าพยานหลักฐานจะเพียงพอเอาผิดกับผู้ต้องหาได้
ขณะที่ นางเติม อายุ 60 ปี แม่นายพงษ์เทพ ผู้ต้องหา เล่าทั้งน้ำตาว่า หัวอกแม่ก็เสียใจและไม่มีใครอยากให้ลูกเป็นคนไม่ดี แต่ถ้าทำผิดจริงก็ให้ยอมรับและว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่จากการสอบถามลูกว่าได้ทำจริงมั๊ยลูกก็บอกว่าเข้าไปบ้านเขาจริงเพราะเมาไม่รู้ตัว แต่ยังไม่ได้ก่อเหตุข่มขืน
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา "บุกรุกเคหะสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายในเวลากลางคืน,ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ,ออกนอกเคหะสถานระหว่างเวลา 22.00 - 04.00 น. ทั้งนี้ยังได้คัดค้านการประกันตัว ขณะที่ผู้ต้องหาใช้สิทธิ์ไม่ขอไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ เนื่องจากกลัวจะถูกรุมประชาทัณฑ์ เบื้องต้นจึงได้ควบคุมตัวไว้สอบปากคำเพิ่มเติม และเตรียมส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดในวันพรุ่งนี้