"ลุงแท็กซี่ 8 ล้าน" ยอมใช้หนี้แล้ว เจ้าของอู่ถอนแจ้งความ โอนเกินมา 30 บาทก็ไม่ขอรับ

"ลุงแท็กซี่ 8 ล้าน" ยอมใช้หนี้แล้ว เจ้าของอู่ถอนแจ้งความ โอนเกินมา 30 บาทก็ไม่ขอรับ

"ลุงแท็กซี่ 8 ล้าน" ยอมใช้หนี้แล้ว เจ้าของอู่ถอนแจ้งความ โอนเกินมา 30 บาทก็ไม่ขอรับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่ นายปรีชา เจ้าของอู่แท็กซี่มังกรเจ้าพระยา ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของ ลุงสิทธิ์ชัย อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ ที่มีคนแห่บริจาคช่วยเหลือภายในคืนเดียวมียอดเงินบริจาคมากกว่า 8 ล้านบาท โดยปรีชา ออกมาขอความเป็นธรรมเนื่องจากลุงสิทธิชัย และลูกชาย ติดค้างค่าเช่ารถแท็กซี่อยู่จำนวน  14,970  บาทไม่ยอมจ่ายคืนให้ ตนให้โอกาสมาตั้งแต่วันแรกที่ลุงสิทธิ์ชัย ได้รับเงินบริจาค มาจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับการชดใช้ ติดตามที่บ้านก็ไม่พบตัว ติดต่อโทรศัพท์ก็ไม่ได้ เมื่อวานจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมือง สมุทรปราการ

เมื่อช่วงสายของวันนี้ (13 พ.ค.63) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วินรถแท็กซี่ ซึ่งภายในลายจอดรถห่างโลตัสบางปู ซึ่งลูกชายของลุงสิทธิ์ชัย  ขับอยู่เพื่อสอบถาม แต่กลับได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมวินว่าโดยส่วนตัวแล้วรู้จักกับลุงสิทธิ์ชัย แต่ลุงสิทธิ์ชัย ไม่ได้ขับอยู่ที่วินนี้มีเพียงลูกชายแกที่มาขับเท่านั้น แต่ก็ขับได้ประมาณครึ่งเดือน หลังจากที่มีคนบริจาคเงินมาช่วยลุงสิทธิ์ชัย ลูกแก่ก็ไม่ได้มาขับแท็กซี่ที่วินอีกเลย

ด้าน นายลาภิษ อายุ 48 ปี คนสนิทลูกชายลุงสิทธิ์ชัย ได้เล่าว่า หลังจากวันที่ทราบข่าวว่าลุงประสิทธิ์ ผู้เป็นพ่อเขาได้รับเงินบริจาคมาก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย และได้ข่าวว่าเขาเอารถไปคืนที่อู่มังกรเจ้าพระยาแล้วก็หายตัวไปเลย และล่าสุดได้ยินข่าวจากเพื่อนที่ขับแท็กซี่ว่าได้พบเห็นลุงสิทธิ์ชัย ขับรถแท็กซี่ป้ายแดงไปเติมก๊าซอยู่ในย่านคลองขุดบางพลี และในหมู่บ้านพฤกษา 15 ลุงกลายเป็นคนดังใครๆ ก็รู้จักแก ล่าสุดก็ไม่มีใครติดต่อลุงและลูกชายได้เลย แต่จริงๆ ที่คุยกะเจ้าของอู่ที่แรกเขาก็อยากได้เงินคืน เขาก็ทวงตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่เขาให้เกียรติเผื่อสำนึกได้ แกอาจจะมีคืนให้เรา แต่พอมันผ่านไปนานเข้ามันก็เงียบเฉยไปที่บ้านก็ไม่เจอโทรก็ติดต่อไม่ได้

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. นายปรีชา อายุ 49 ปี เจ้าของอู่แท็กซี่มังกรเจ้าพระยา ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อถอนแจ้งความแล้ว หลังจากที่ลุงสิทธิ์ชัย ได้ให้เพื่อนสนิท โอนเงินจำนวน 15,000 บาทเข้ามาใช้หนี้ในบัญชีของลูกชาย แต่นายปรีชา ได้โอนเงินส่วนเกินจำนวน 30 บาท คืนกลับเข้าไปในบัญชีที่โอนมา เนื่องจากทั้งสองค้างค่าเช่าตนเพียงแค่ 14,970 บาท หลังจากนั้นได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ เพื่อถอนแจ้งความ เพราะเรื่องของตนและลุงสิทธิ์ชัย กับลูกชายจบแล้ว ส่วนเรื่องอื่นตนไม่ขอเกี่ยวข้อง

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook