อธิบดี คต.ชี้ทบทวนนโยบายทางการค้าของโมร็อกโก
ที่ผ่านมาแม้ว่าโมร็อกโกสามารถดำเนินนโยบายที่ถูกต้อง ได้แก่ การเปิดเสรีการลงทุน การจัดทำ FTA เป็นต้น ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม โมร็อกโกควรปรับปรุงโดeral Agreement on Trade and Services : GATS) โดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยวและโทรคมนาคมให้โปร่งใสมากขึ้น รวมถึงลดความซ้ำซ้อนของระบบอัตราภาษีศุลกากร MFN ที่มีรายการสินค้ากว่า 1,300 Tariff Lines ซึ่งมี Applied Rates สูงกว่าที่อัตราที่ผูกพันไว้ อีกทั้งความชัดเจนในเรื่องพิธีการศุลกากร มาตรการ SPS การอนุญาตและการควบคุมการนำเข้าและส่งออก Trade Remedies การคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ และการปกป้องภาคเกษตรโดยการคงอัตราภาษีศุลกากรที่สูง เป็นต้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การปฏิรูปโครงสร้างครั้งนี้ของโมร็อกโก เป็นการปรับตัว เพื่อให้เข้ากับกระแสการเปลี่ยนแปลงระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อสร้างควาเจริญเติบโต ที่ยั่งยืนให้กับประเทศ สำหรับ Notifications ด้านเกษตรซึ่งโมร็อกโกได้จัดทำไว้แล้ว โดยคาดว่าจะแจ้งต่อ WTO ภายในเดือนกรกฎาคมและยืนยันที่จะใช้นโยบายเศรษฐกิจเสรีและการเปิดประเทศ การปฏิบัติตามพันธกรณีใน WTO รวมทั้งการส่งเสริมการค้าในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันเช่นเดิม
ทั้งนี้ คณะผู้แทนถาวรไทยประจำ WTO ได้มีข้อสังเกตต่อการประชุมดังกล่าว ดังนี้ แม้ว่าโมร็อกโกจะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความก้าวหน้าได้อย่างมีเสถียรภาพและต่อเนื่อง แต่โมร็อกโกยังประสบปัญหาการขาดดุลทางการค้าอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้น โดยในปี 2550 โมร็อกโกนำเข้าสินค้ามีมูลค่า31,650.4ล้านเหรียญสหรัฐฯขณะที่ส่งออกเพียง 14,607.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปี 2544 ซึ่งมีการสฯ นอกจากนี้การได้จัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับสหรัฐฯของโมร็อกโก ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วเมื่อ1 มกราคม 2549 มีผลทำให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในปี 2548 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ3.3ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นร้อยละ 4.5 และ6.1 ในปี 2549-2550ตามลำดับ ในขณะที่การส่งออกไปสหรัฐฯกลับมีมูลค่าลดลงโดยในปี 2548สามารถส่งออกไปสหรัฐฯ มีมูลค่าเพียงร้อยละ 2.6 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดและลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปี 2549 และ 2550 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกเพียงร้อยละ 1.9 และ 2.4 ตามลำดับ