ขสมก.คุมเข้มจัดระเบียบรถมินิบัส-รถตู้เก่า

ขสมก.เอาจรงรถมินิบัส-รถตู้เก่า ไม่ยอมเปลี่ยนรถ หากพ้นกำหนดแล้วยังไม่ยอมปฏิบัติตามกฎ จะยกเลิกสัญญาและจำหน่ายทะเบียนออกทันที

นายโอภาส เพชรมุนี กรรมการและรักษาการผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมนี้ จะครบกำหนด 2 ปี ที่ขสมก. มีประกาศเมื่อปี 2550 ให้รถโดยสารร่วมบริการ มินิบัส และรถตู้ที่เป็นรถเก่าอายุมากกว่า 10 ปี และไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวีตามแนวทางการส่งเสริมพลังงานทดแทนของภาครัฐ ยื่นขอเปลี่ยนรถใหม่

หากผู้ประกอบการรายใดเพิกเฉย ไม่ดำเนินการตามที่ ขสมก.ประกาศ จะมีการยกเลิกสัญญา และมีการแจ้งจำหน่ายทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบกออกจากระบบทันที และระหว่างนี้อีก 6 เดือน รถคันไหนที่มีการยื่นขอเปลี่ยนรถ แต่อยู่ระหว่างการรอเงื่อนไขการกู้เงินจะมีสติกเกอร์ติดหน้ารถระบุไว้ และ ขสมก.จะร่วมกับกรมการขนส่งทางบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกกวดขันกวาดจับทันที

"ขสมก.ยืนยันว่า แนวทางดังกล่าวมีความจำเป็น เพื่อให้รถโดยสารสารธารณะมีคุณภาพบริการสูงขึ้น ใช้พลังงานสะอาด และมีประกันภัยดูแลผู้โดยสารตามกฎหมายอย่างถูกต้อง" นายโอภาส กล่าว

จากจำนวนรถเมล์มินิบัสที่เคยมีในระบบทั้งหมดจำนวน 1,061 คัน ขณะนี้มาแจ้งขอเปลี่ยนรถแล้วจำนวน 833 คัน ที่เหลืออีกกว่า 200 คัน ยังไม่มาติดต่อดำเนินการ ส่วนรถตู้โดยสารขณะนี้ ขสมก.ถือสัญญาผู้ประกอบการประมาณ 6,300 คัน แต่จะมีรถตู้เถื่อนวิ่งให้บริการอีกประมาณ 1,000 คัน โดยขณะนี้มีรถตู้เก่าที่มาแจ้งขอเปลี่ยนรถแล้วประมาณ 2,500 คัน

หากมีรถมินิบัสและรถตู้บางส่วนต้องออกจากระบบ ขสมก.มั่นใจว่าจะไม่กระทบกับการให้บริการผู้โดยสาร เนื่องจากรถเหล่านี้วิ่งให้บริการในเส้นทางที่มีรถโดยสารของ ขสมก.ให้บริการอยู่แล้ว