วินิจ ยันเปล่าป้อง โต แฮงแมน ชี้ หรั่ง ซิลลี่ฟูลล์ หาเรื่องก่อน

เกือบเกิดเหตุลงมือลงไม้กัน ระหว่าง โต-แฮงแมน หรือ โต ณัฐพล พุทธภาวนา จากค่ายแกรมมี่ กับ หรั่ง ซิลลี่ฟูลส์ แห่งค่ายอาร์เอส เมื่อทั้งคู่เกิดเขม่นกันหลังเวที เทศกาลดนตรีฤดูฝน "FINO RAINY MUSIC FESTIVAL" ที่จัดขึ้น ณ. เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ซึ่ง วินิจ เลิศรัตนชัย บอสใหญ่ "บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด" ในฐานะผู้จัด และผู้เห็นเหตุการณ์ หลังยืนยัน หรั่ง ซิลลี่ฟูลส์ หาเรื่อง โต แฮงแมน ทำให้ถูกมองเข้าข้าง "โต" ซึ่ง "วินิจ" เผยถึงเรื่องนี้ว่า พูดความเป็นจริง หากรู้จักควบคุมอารมณ์ ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

"ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ไม่ใช่มีแต่ผมคนเดียวที่เห็นเหตุการณ์ แต่เหตุการณ์มันก็ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นต่อยตี แค่มีปากเสียงกัน ข่าวบางกระแสก็ว่ากันไปรุนแรงเกินจริง ความจริงมันก็เป็นอย่างที่บอก คือฝ่ายหรั่ง ซิลลี่ฟูลส์เป็นคนหาเรื่องก่อนถึง 2 ครั้ง ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขา มีปัญหาอะไรกันมา รู้แต่ว่าเขาเคยร่วมวงกัน แล้วโตก็แยกไปทำวงใหม่ ทั้งคู่อยู่คนละค่าย ซึ่งตรงนี้ถ้าสปิริตคนดนตรี ก็ไม่น่าจะมีปัญหา หากต้องโชว์เวทีเดียวกัน"

"ผมเป็นคนจัดงานคอนเสิร์ต ก็อยากทำให้คนดูสนุกกับงาน ผมจัดวงให้แฮงแมนขึ้นเล่นก่อนตอน 2 ทุ่ม ซิลลี่ฟูลส์ขึ้นเล่นตอน 5 ทุ่ม ซึ่งมันก็ห่างกันพอสมควร และผมจัดตามความเหมาะสม ไม่ใช่เพราะเขาทะเลาะกันแล้วผมจับแยกให้ขึ้นกันคนละเวลา"

"แล้วมันก็เป็นเรื่อง เมื่อหรั่ง (ซิลลี่ฟูลส์) เขาเดินไปหาโตที่รถแล้วเคาะกระจก ซึ่งตรงนั้นมันก็จบไปแล้ว หรั่งเขาก็จะยอมขอโทษโตนะ แต่ก็สุดท้ายไม่ได้ขอโทษเพราะเหตุการณ์มันวุ่นวายมาก"

"เพราะคนขับรถของวงซิลลี่ฟูลส์ ก็ไปหาเรื่องอีก ซึ่งผมเห็นว่ามันไม่ไหวแล้ว เลยไม่ให้วงซิลลี่ฟูลส์ขึ้นเวที เพราะถือว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแล้ว ก็เลยจ่ายค่าตัวให้เขากลับไป คนขับรถเขาเมาหรือเปล่าอันนี้ผมก็ไม่ทราบนะ เขาก็เดินปรี่เขาไปหาโต ผมเห็นก่อนก็เลยให้การ์ดของผม คุมตัวออกไป ส่วนตัวโตเองก็ไม่ได้เห็นตอบโต้อะไรไปนะ"

"ตอนนี้ผมก็ได้ทำรายงานไปทางต้นสังกัดอาร์เอสแล้วว่า พฤติกรรมเขาเป็นอย่างไร ซึ่งทางอาร์เอสก็คงรับทราบแล้ว ผมว่าถ้าทุกคนมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ และควบคุมความรู้สึกตัวเองได้ คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ต่างคนก็โตๆ กันหมดแล้ว ผมไม่ได้ปกป้องโต หรือเข้าข้างใคร พูดตามความเป็นจริง คนอีกหลายคนก็คงเห็น เหมือนที่ผมเห็น"