สะพัด! ลุงป้อม จ่อนั่งหัวหน้า พปชร. หลังรวมเสียงหนุนได้เกินครึ่ง คาด อุตตม ยอมถอย

สะพัด! ลุงป้อม จ่อนั่งหัวหน้า พปชร. หลังรวมเสียงหนุนได้เกินครึ่ง คาด อุตตม ยอมถอย

สะพัด! ลุงป้อม จ่อนั่งหัวหน้า พปชร. หลังรวมเสียงหนุนได้เกินครึ่ง คาด อุตตม ยอมถอย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกิดข่าวลือสะพัด! "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะผงาดขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังรวบรวมเสียงข้างมากจากกรรมการบริหารได้แล้ว คาดว่านายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาจถอดใจยอมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเร็วๆ นี้

เมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) แหล่งข่าวในพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยว่า การรวบรวมเสียงจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อสนับสนุนให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคจากนายอุตตม สาวนายน ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จแล้ว เนื่องจากล่าสุดฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค สามารถรวมเสียงให้กรรมการบริหารพรรคลาออกจากตำแหน่งได้แล้วถึง 23 เสียง ซึ่งถือว่าเกินครึ่งของจำนวนกรรมการบริหารพรรคที่มีอยู่ทั้งหมด ซึ่งตามข้อบังคับพรรคระบุว่าหากกรรมการบริหารพรรคเกินครึ่งลาออก จะทำให้กรรมการบริหารพรรคทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งโดยอัตโนมัติ และต้องมีการจัดประชุมพรรคเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

ทั้งนี้ แหล่งข่าวยังระบุว่า หลังจากแกนนำกลุ่มสามมิตรที่นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้ว จึงมีการเปลี่ยนท่าทีและเซ็นใบลาออกจากกรรมการบริหารพรรคเรียบร้อย เพียงแต่ยังไม่ได้ยื่น เพราะต้องรอสัญญาณและรอสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลายก่อน จึงจะยื่นพร้อมกับคนอื่นๆ ที่มีการเซ็นใบลาออกไว้แล้วเช่นเดียวกัน

ขณะที่ กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เปลี่ยนท่าทีมาลาออกจากกรรมการบริหารพรรคเช่นกัน หลังรับรู้การตัดสินใจของกลุ่มสามมิตร

ส่งผลให้ ณ เวลานี้ เสียงของฝ่ายที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค นำโดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และประธาน ส.ส.พรรค นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถือว่ามีเกินครึ่งแล้ว

โดยคาดว่าจะมีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อจัดประชุมใหญ่พรรคดำเนินการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่หลังจากได้รับสัญญาณและสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงรอให้พระราชกำหนดกู้เงิน 3 ฉบับ ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรก่อน ที่ดูแล้วน่าจะประมาณต้นเดือนมิถุนายน

แต่อย่างไรก็ตาม หากนายอุตตม สาวนายน ตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรค ก็จะทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งทันทีตามข้อบังคับพรรคที่ระบุไว้ ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายอุตตมน่าจะตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวที่ตีคู่มากับความพยายามเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็คือ การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่แม้ ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะส่งเสียงสำทับมาหลายครั้งว่าเป็นอำนาจตัดสินใจของตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่ล่าสุดก็มีกระแสข่าวว่าหากเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคมาเป็น ลุงป้อม ได้สำเร็จ ก็จะถึงคิวปรับ ครม. โดยเป้าที่ถูกเพ่งเล็งหนีไม่พ้น "กลุ่ม 3 กุมาร" คือ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ถูกครหาว่าไม่เคยให้ความสำคัญกับการดูแล ส.ส. ในพรรคมาตลอดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

ซึ่งแคนดิเดตที่จะมานั่งเก้าอี้เสนาบดีแทนนั้น ยังคงมีชื่อของนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ที่ทั้งคู่มีลุ้นอยู่ในกลุ่มที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่การจัดตั้งรัฐบาลเมื่อปีก่อนแล้ว

ไม่ว่าจะเรื่องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และการปรับคณะรัฐมนตรี ที่สุดแล้วคงต้องรอความชัดเจนอีกครั้งว่า ลุงตู่-ลุงป้อม จะตัดสินใจอย่างไร แต่เชื่อแน่ว่าอีกไม่นานเกินรอพวกเราคงได้รู้คำตอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook