ศาลสั่งประหารชีวิต "ครูพี่ณัฐ" ติวเตอร์โหดทำร้าย "น้องชายแดน" ยังปฏิเสธอ้างแค่ทำโทษ

ศาลสั่งประหารชีวิต "ครูพี่ณัฐ" ติวเตอร์โหดทำร้าย "น้องชายแดน" ยังปฏิเสธอ้างแค่ทำโทษ

ศาลสั่งประหารชีวิต "ครูพี่ณัฐ" ติวเตอร์โหดทำร้าย "น้องชายแดน" ยังปฏิเสธอ้างแค่ทำโทษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีเมื่อดือนมิถุนายน 2562 นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาทหาร “กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ” เขตพื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ได้ทำร้ายร่างกาย ด.ช.ฐปกร หรือ น้องชายแดน ขณะเข้าไปศึกษาอยู่ในสถาบันดังกล่าว จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์บานปลาย โดยมีการซ้อมน้องชายแดนอย่างรุนแรงจนช็อกหมดสติและได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์

ซึ่งเรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.นครสวรรค์ และตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้ร่วมกันสืบสวนและคลี่คลายคดี โดยมีการจับกุมตัวนายณัฐพล เจ้าของสถาบันกวดวิชาเตรียมทหารบ้านครูพี่ณัฐ ผู้ลงมือก่อเหตุ พร้อมกับ น.ส.พีรญา ภรรยา และ น.ส.นงลักษณ์ แม่ยาย ซึ่งอยู่ร่วมในเหตุการณ์น้องชายแดนถูกทำร้าย โดยมีหลักฐานทั้งวัตถุพยานคือไม้เบสบอลทั้ง 8 อันที่ใช้ทำร้ายน้องชายแดน และมีพยานบุคคลมัดแน่นหนา ตามที่ได้เคยมีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ไม้เบสบอลที่ใช้ทำร้ายน้องชายแดนถูกโยนทิ้งลงแม่น้ำ

ล่าสุด ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ได้มีคำพิพากษาสั่งประหารชีวิตนายณัฐพล เจ้าของสถาบันกวดวิชาทหาร “กวดวิชาบ้านพี่ณัฐ” แล้ว พร้อมกับมีสั่งตัดสินให้ น.ส.พีรญา ภรรยา และ น.ส.นงลักษณ์ แม่ยายนายณัฐพล ถูกจำคุกตลอดชีวิต แต่ในส่วนของนายณัฐพล ขณะนี้ยังคงให้การปฏิเสธ และขอสู้คดีต่อ โดยมีการให้ทนายยื่นเรื่องต่อศาลอุทธรณ์ พร้อมกับมีการขอประกันตัว แต่ทางศาลได้มีการคัดค้าน จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดการจับกุมดำเนินคดีนายณัฐพล จนถึงขั้นส่งฟ้องศาลนั้น นายณัฐพลได้ให้การปฏิเสธมาตลอด โดยอ้างว่า ไม่ได้มีเจตนาฆ่า แค่เป็นการทำโทษเพื่อสั่งสอนที่ครูสามารถกระทำต่อศิษย์ได้เท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ ผู้พิพากษามองว่า มีหลักฐานต่างๆ ในการกระทำผิดชัดเจน แต่เจ้าตัวกลับไม่สำนึกผิดต่อการกระทำ และยังคงให้การปฏิเสธ จึงตัดสินให้มีการประหารชีวิต ซึ่งหากผู้ต้องหามีความรู้สึกแย้งในคำตัดสินนี้ ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามญาติของน้องชายแดน ที่เข้าไปฟังคำพิพากษา ได้เปิดเผยความรู้สึกดีใจ ที่ศาลได้ให้ความยุติธรรม แต่ก็มีความรู้สึกห่วงเล็กน้อยที่รู้ว่าทางคู่กรณีได้ขออุทธรณ์เพื่อสู้คดี กังวลใจว่า ในการต่อสู้ขั้นตอนต่อไป จะไม่เหมือนเดิม ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไป ส่วนบิดาและมารดาของน้องชายแดน ความรู้สึกตอนนี้ เขาทั้งคู่ยังคงสะเทือนใจอยู่ เพราะเป็นบุตรคนเดียวของครอบครัว และมารดาก็ทำหมันจนไม่สามารถมีบุตรคนต่อไปได้อีกแล้ว และขณะนี้ ทางบิดาและมารดาของน้องชายแดนได้มีได้การกำหนดกันไว้ว่า ในช่วงสายวันที่ 12 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตของน้องชายแดน จะมีการเคลื่อนศพของน้องชายแดนออกจากโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นำไปตั้งสวนพระอภิธรรมศพ 1 คืนก่อนจะมีการฌาปนกิจต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook