มาตรการ “เปิดโรงเรียน” หลังคลายล็อกดาวน์โควิด-19 ใน 6 ประเทศชั้นนำ

มาตรการ “เปิดโรงเรียน” หลังคลายล็อกดาวน์โควิด-19 ใน 6 ประเทศชั้นนำ

มาตรการ “เปิดโรงเรียน” หลังคลายล็อกดาวน์โควิด-19 ใน 6 ประเทศชั้นนำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โรงเรียนในแต่ละประเทศจึงประกาศหยุดการเรียนการสอนเพื่อช่วยยับยั้งการระบาดของโรค ซึ่งการตัดสินใจปิดโรงเรียนก็ส่งผลกระทบต่อนักเรียนกว่า 1.4 พันล้านคนทั่วโลก แม้โรงเรียนในหลายประเทศจะยังไม่มีการเรียนการสอนไปอีกหลายเดือน แต่ในหลายประเทศที่อัตราการติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลง โรงเรียนในประเทศเหล่านี้ก็เริ่มกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนอีกครั้ง พร้อมกับมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน

อิสราเอล นอร์เวย์ ญี่ปุ่น เดนมาร์ก จีน และไต้หวัน เปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง โดยนักเรียนที่กลับไปเรียนจะต้องปรับตัวรับกับวิถีชีวิตแนวใหม่ มีการตรวจวัดอุณหภูมิของนักเรียนทุกคนก่อนเข้าโรงเรียน บางโรงเรียนสั่งปิดสนามเด็กเล่น และจัดระยะห่างของโต๊ะเรียนในห้อง และหากมีโอกาส ครูจะจัดการเรียนการสอนนอกห้องเรียนแทน ซึ่งวิธีการเหล่านี้ เป็นวิธีที่หลายโรงเรียนเลือกใช้เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงเรียน

โต๊ะห่างกันและผู้ปกครองไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าตึกเรียนอีกต่อไป

เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 โต๊ะเรียนของนักเรียนชาวเดนมาร์ก อิสราเอล และนอร์เวย์ ถูกจัดให้อยู่ห่างกัน 2 เมตรซึ่งเป็นระยะห่างที่ได้รับคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลกว่าเหมาะสมกับการรักษาระยะห่างทางสังคมมากที่สุด ทั้งนี้ เดนมาร์กประกาศให้นักเรียนเข้าโรงเรียนจากหลาย ๆ ประตูเพื่อลดความแออัด และสั่งห้ามไม่ให้ผู้ปกครองเข้าไปในโรงเรียน ขณะที่นักเรียนในประเทศอิสราเอล ถูกสั่งห้ามไม่ให้มีการสัมผัสทางร่างกายกับเพื่อน ๆ และคุณครู   

นักเรียนต้องวัดอุณหภูมิก่อนเข้าโรงเรียน

โรงเรียนในประเทศญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน ตรวจวัดอุณหภูมิของนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน และนักเรียนที่มีไข้จะถูกส่งกลับบ้านทันที ในกรุงปักกิ่ง นักเรียนต้องกรอกข้อมูลในแอปพลิชั่นเพื่อคำนวนความเสี่ยงการติดเชื้อ นักเรียนจะเข้าเรียนได้เมื่อแอปพลิเคชั่นแสดงผลว่านักเรียนคนนั้นมีสุขภาพดี ขณะที่นักเรียนบางคน จะได้รับเครื่องวัดอุณหภูมิและต้องวัดอุณหภูมิของตัวเองอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวันเมื่ออยู่ที่โรงเรียน เช่นเดียวกับผู้ปกครองในประเทศอิสราเอล ที่ต้องกรอกแบบฟอร์มสุขภาพเพื่อยืนยันว่าลูกของพวกเขาไม่ติดเชื้อโรคโควิด-19 หากมีสมาชิกในครอบครัวติดเชื้อ นักเรียนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปโรงเรียน

ครูจัดการเรียนการสอนกลางแจ้งและปิดสนามเด็กเล่น

ประเทศเดนมาร์กและนอร์เวย์ ย้ายห้องเรียนไปอยู่กลางแจ้งในเวลาที่เหมาะสม เพื่อลดการอยู่รวมกันในพื้นที่ปิด ขณะที่สนามเด็กเล่นและห้องสมุดในหลาย ๆ โรงเรียนก็ยังไม่มีกำหนดเปิดให้ใช้บริการ

นักเรียนต้องล้างมือทุกชั่วโมงและใส่หน้ากากอนามัย

โรงเรียนในเดนมาร์กได้ติดตั้งอ่างล้างมือเอาไว้นอกตึกเรียน และกำหนดให้นักเรียนต้องล้างมือทุกชั่วโมง ขณะที่โรงเรียนในไต้หวันก็ขอให้นักเรียนใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน เช่นเดียวกับนักเรียนในอิสราเอล ที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในโรงเรียน แต่สามารถถอดออกได้เมื่ออยู่ในห้องเรียน

นักเรียนต้องนั่งกินข้าวห่างกัน 1 เมตร

บางโรงเรียนในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีนได้จัดที่นั่งสำหรับนั่งกินอาหารในโรงอาหาร โดยโต๊ะกินข้าวจะถูกจัดให้อยู่ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ขณะที่อีกหลายโรงเรียนสั่งปิดโรงอาหาร และให้นักเรียนกินข้าวในห้องเรียนแทน ซึ่งวิธีการนี้ เป็นวิธีการที่ CDC แนะนำให้ใช้กับโรงเรียนในสหรัฐอเมริกาด้วย

ห้องเรียนมีขนาดเล็กลง  

ขนาดห้องเรียนโดยเฉลี่ยของเดนมาร์กจะมีนักเรียน 20 คน แต่เมื่อเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 จึงต้องลดขนาดของห้องเรียนลงไปอีก โดยแบ่งออกเป็น 2-3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีห้องเรียนเป็นของตัวเองและมีครูประจำชั้น ในระหว่างวัน นักเรียนจะสามารถพูดคุยกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มห้องเรียนเท่านั้น

ขณะที่นักเรียนในนอร์เวย์ จะใช้เวลากับกลุ่มนักเรียนจำนวน 3-6 คนเท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงวัยของพวกเขา โดยขนาดห้องเรียนของนอร์เวย์ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ที่ห้องละ 20 คนเช่นเดียวกัน

โรงเรียนมีห้องแยกสำหรับนักเรียนที่มีไข้

บางโรงเรียนในกรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้จัดเตรียมห้องหรือพื้นที่ที่แยกจากนักเรียนคนอื่น ๆ ไว้ สำหรับนักเรียนที่มีไข้ เพื่อป้องกันการเอาไข้ไปติดเพื่อน หรือแพร่กระจายโรคโควิด-19 กรณีที่เด็กนักเรียนติดเชื้อ

นักเรียนมาโรงเรียนตามช่วงเวลาที่โรงเรียนจัดให้

ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นักเรียนในเดนมาร์กตั้งแต่ชั้น ป.5 ขึ้นไป กลับไปเรียนตามปกติ ซึ่งถือเป็นนักเรียนกลุ่มแรกของแผนเปิดการเรียนการสอนและเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ประเทศนอร์เวย์ ประกาศให้นักเรียนเตรียมอนุบาลกลับไปเรียนได้ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา และนักเรียนชั้นประถมกลับไปเรียนได้ในวันจันทร์ของสัปดาห์ต่อมา

นักเรียน ม.ปลาย ในกรุงปักกิ่ง กลับไปเรียนในช่วงปลายเดือนเม.ย. และนักเรียน ม.ต้น เปิดเรียนอีกครั้งในวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับนักเรียนชั้น ป.1-3 ในประเทศอิสราเอล ที่กลับไปเรียนได้ในวันที่ 3 พ.ค. ขณะที่นักเรียนชั้นอื่น ๆ ต้องรอไปจนถึงเดือนหน้า

เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของเล่นและห้องเรียน 2 ครั้งต่อวัน

เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนในนอร์เวย์ต้องทำความสะอาดของเล่นและห้องเรียน 2 ครั้งต่อวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส นักเรียนไม่ได้รับอนุญาตให้นำของเล่นมาจากบ้าน ขณะที่โรงเรียนก็สั่งห้ามไม่ให้มีของเล่นที่ทำความสะอาดได้ยากมาไว้ในโรงเรียน เช่น ตุ๊กตา เป็นต้น ขณะที่ นักเรียนในอิสราเอลไม่สามารถยืมหนังสือจากห้องสมุดได้ รวมทั้งการแบ่งขนม ขอยืมดินสอหรือปากกา และการเล่นเกมที่ต้องสัมผัสร่างกาย

ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่มีปัญหาสุขภาพและมีอายุมากกว่า 65 มาโรงเรียน

ในประเทศอิสราเอล เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่มีอายุมากกว่า 65 ปี หรือมีปัญหาสุขภาพ จะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาทำงาน เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สูงกว่าคนกลุ่มอื่น ๆ

นักเรียนล้างมือและทำความสะอาดรองเท้าก่อนเข้าตึกเรียน

โรงเรียนในไต้หวัน ซึ่งหยุดการเรียนการสอนไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ ขอให้นักเรียนทุกคนล้างมือก่อนเข้าเรียน และทำความสะอาดรองเท้าของพวกเขาเมื่อมาถึงโรงเรียนในตอนเช้า             

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook