ไทม์ไลน์ช่างสักป่วยโควิด-19 รายใหม่ ไม่รู้ตัวติดเชื้อ พาลูกเมียหนีโรคจากภูเก็ตมาเชียงใหม่

ไทม์ไลน์ช่างสักป่วยโควิด-19 รายใหม่ ไม่รู้ตัวติดเชื้อ พาลูกเมียหนีโรคจากภูเก็ตมาเชียงใหม่

ไทม์ไลน์ช่างสักป่วยโควิด-19 รายใหม่ ไม่รู้ตัวติดเชื้อ พาลูกเมียหนีโรคจากภูเก็ตมาเชียงใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากรักษาสถิติไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 รายใหม่ ติดต่อกันนาน 35 วัน ล่าสุด มีรายงานว่าจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็นชาย อายุ 39 ปี เดินทางจากจังหวัดภูเก็ตกลับบ้านที่เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา พร้อมลูกและภรรยา และ ได้รับการตรวจยืนยันการพบเชื้อโควิด-19 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจนถึงขณะนี้มีผู้เดินทางจากจังหวัดภูเก็ตเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ตามช่องทางต่างๆ ราว 200 คน ทุกคนถูกส่งรายชื่อจากต้นทางและผ่านการตรวจสารคัดหลั่งทันทีที่เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่แพร่ระบาด โดยชายที่พบว่าติดเชื้อรายล่าสุดที่เดินทางมาพร้อมกับภรรยาและลูก ให้ข้อมูลในการสอบสวนโรคว่าเป็นชาวภูเก็ตและได้ซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่เพราะกังวลการแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ต เมื่อมาถึงได้มีการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน แต่ยอมรับว่าได้ออกไปส่งภรรยาซื้ออาหารมารับประทานกันที่บ้าน โดยระหว่างนั้นมีน้ำมูก แต่ไม่มีไข้ และ ไม่ได้ไปหาหมอเพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร จนกระทั่งมาตรวจพบเชื้อ

ล่าสุด นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์สุเมธ องศ์วรรณดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ กรณีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นชายอายุ 39 ปี อาชีพช่างสัก มีภูมิลำเนาอยู่ จ.เชียงใหม่ แต่มาทำงานที่ จ.ภูเก็ต เดินทางกลับบ้านเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พร้อมลูกและภรรยา ด้วยรถยนต์ส่วนตัว และได้รับการตรวจหาเชื้อจาก อสม. ในเชียงใหม่ จนพบว่าติดเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าผู้ที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง จะมีการตรวจหาเชื้อทุกคน ไม่ว่าจะมีอาการผิดปกติหรือไม่ และต้องมีการกักกันตนเอง เป็นเวลา 14 วัน สำหรับกรณีนี้หลังพบเชื้อ ยังไม่มีอาการผิดปกติ ไม่มีไข้ ได้มีการส่งทีมลงไปสอบสวนโรค พบประวัติมีการเดินทางจากจังหวัดภูเก็ตด้วยรถยนต์ส่วนตัวและมีการแวะซื้ออาหารข้างทางและพักค้างคืนที่จังหวัดนครปฐม 1 คืน โดยผู้ป่วยมีอาการปกติดี จนได้รับผลการตรวจสารคัดหลั่งในลำคอเมื่อพบเชื้อ จึงส่งตัวมารักษาที่ รพ.นครพิงค์

ส่วนผลตรวจภรรยาและลูก ไม่พบเชื้อ เมื่อตรวจซ้ำอีกครั้ง ก็ยังไม่พบเชื้อ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งภรรยาและลูก ต้องกักกันตนเอง 14 วัน ส่วนผู้ป่วยต้องรับการรักษาที่ รพ.นครพิงค์ จนกว่าอาการจะปลอดภัย ทั้งนี้ ในการสืบสวนสอบสวน ทางจังหวัดตั้งเป้าว่าผู้ป่วยเดินทางไปที่ไหนบ้าง เพื่อค้นหาผู้ป่วยเสี่ยงเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นทางผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้องแจ้งว่าไม่ได้ไปที่ไหน อยู่ในที่พักเป็นหลัก ส่วนภรรยาและลูกออกไปซื้ออาหารละแวกใกล้เคียง โดยใช้เวลา 10-15 นาที ซึ่งการค้นพบผู้ป่วยรายนี้ เกิดจากมาตรการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ไม่จำเป็นต้องป่วยแล้วมาตรวจ

ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่ากรณีนี้ไม่ได้มีอาการป่วยที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงคือจังหวัดภูเก็ต แต่ต้องค้นหาเชิงรุกต่อไป เพราะยังมีการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการพบเชื้อ ครั้งนี้ เป็นการทดสอบว่าเราได้ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกและนำเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งยังต้องขอความร่วมมือประชาชนต่อไป

 

 

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook