มาเลเซียถอนข้อหาฟอกเงิน "ลูกเลี้ยงนาจิบ" แลกกับการคืนเงินกว่า 3,000 ล้าน

มาเลเซียถอนข้อหาฟอกเงิน "ลูกเลี้ยงนาจิบ" แลกกับการคืนเงินกว่า 3,000 ล้าน

มาเลเซียถอนข้อหาฟอกเงิน "ลูกเลี้ยงนาจิบ" แลกกับการคืนเงินกว่า 3,000 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกติดภรรยา "นาจิบ ราซัก" อดีตนายกฯ มาเลเซีย ยอมคืนเงินกว่า 3 พันล้านให้แก่รัฐบาลมาเลเซีย ทำให้คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตฯ และอัยการถอนฟ้องข้อหาฟอกเงิน สื่อนอกชี้เปลี่ยนขั้วรัฐบาล อาจทำให้อดีตผู้นำลอยนวล

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติมาเลเซีย พร้อมด้วยอัยการที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดีทุจริตกองทุน 1MDB เพิกถอนข้อหาฟอกเงินที่มีต่อ รีซา อาซิซ โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ในวงการฮอลลีวูดของสหรัฐอเมริกา ลูกติดของนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งถูกสอบสวนกว่า 40 ข้อหาในคดีพัวพันการทุจริต และใช้อำนาจในทางมิชอบ ซึ่งนำไปสู่การพ่ายแพ้เลือกตั้งในมาเลเซียเมื่อปี 2561

หนึ่งในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตฯ เปิดเผยว่า การถอนข้อหาฟอกเงิน แลกเปลี่ยนกับการที่ รีซา อาซิซ จะต้องนำเงิน 107.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,323 ล้านบาท มาคืนให้รัฐบาลมาเลเซีย แต่เป็นส่วนหนึ่งของเงินทั้งหมด 248 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7,688 ล้านบาท) ที่เขาถูกกล่าวหาว่าได้รับจากกองทุนวันเอ็มดีบีอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทนายของรีซาเป็นตัวแทนเจรจาไกล่เกลี่ยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โกปาล สรีราม หัวหน้าอัยการผู้รับผิดชอบคดีของรีซา อาซิซ ระบุว่า การถอนข้อหาจะยังไม่มีผลสมบูรณ์จนกว่ารีซาคืนเงินจำนวนดังกล่าวในเวลาและเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ หากไม่สามารถทำตามเงื่อนไขทั้งหมดได้ จะนำไปสู่การตั้งข้อหาครั้งใหม่

ขณะที่ทีมทนายของรีซา ยืนยันว่าลูกความของตนไม่ได้กระทำความผิด แต่เป็นเพียงผู้ถูกลูกหลงในการต่อสู้ทางการเมืองเท่านั้น

ส่วน The New York Times สื่อเก่าแก่ของสหรัฐฯ รายงานว่า การถอนฟ้องลูกเลี้ยงของนาจิบ ราซัก บ่งชี้ว่ารัฐบาลมาเลเซียชุดปัจจุบันอาจกำลังหาทางผ่อนผันโทษหรือแม้แต่การยุติคดีของนาจิบ เพราะ มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งเพิ่งดำรงตำแหน่งได้ไม่ราว 3 เดือน เป็นผู้หนึ่งที่ย้ายขั้วจากแนวร่วมแห่งความหวังของอดีตรัฐบาล ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ไปร่วมมือกับพรรคอัมโนและแนวร่วมแห่งชาติ (BN) ที่เป็นเครือข่ายอำนาจเดิมของนาจิบ ราซัก

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลการติดตามเส้นทางการเงินของกองทุนวันเอ็มดีบีที่ถูกโอนมายังสถาบันการเงินในสหรัฐฯ พบว่าเงินบางส่วนของถูกนำไปร่วมลงทุนกับบริษัท Red Granite Pictures ซึ่งรีซาเป็นหนึ่งในผู้บริหาร

จากนั้น บริษัทเรต กราไนต์ พิกเจอร์ ได้นำเงินไปอำนวยการสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูด 3 เรื่อง คือ Dumb and Dumber, Daddy's Home และ The Wolf of Wall Street ซึ่งนำแสดงโดยนักแสดงชายชื่อดัง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ

ขณะที่ VOA รายงานว่า รัฐบาลมูห์ยิดดิน ยัสซิน จะต้องเผชิญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันจันทร์ที่ 18 พ.ค.ที่จะถึง เนื่องจากอดีตนายกฯ มหาเธร์ ที่ลาออกจากตำแหน่งกะทันหันเมื่อเดือน ก.พ.เป็นแกนนำยื่นเรื่องอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร

อย่างไรก็ตาม นายกฯ มูห์ยิดดินได้ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ให้เลื่อนการอภิปรายออกไปก่อน โดยอ้างเหตุผลว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย จึงไม่ควรให้คนหมู่มากมารวมตัวกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook