นักร้องร้อยเสียงแจ้งความดำเนินคดี "นายกรัฐมนตรี" ข้อหาหลอกลวง ไม่ให้เงินเยียวยา

นักร้องร้อยเสียงแจ้งความดำเนินคดี "นายกรัฐมนตรี" ข้อหาหลอกลวง ไม่ให้เงินเยียวยา

นักร้องร้อยเสียงแจ้งความดำเนินคดี "นายกรัฐมนตรี" ข้อหาหลอกลวง ไม่ให้เงินเยียวยา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 ศร ร้อยเสียง ศิลปินอิสระเข้าแจ้งความดำเนินคดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ข้อหาหลอกลวง หลังจากไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท

(15 พ.ค.63) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง นายพูนศักดิ์ จงรักษ์ หรือฉายา ศร ร้อยเสียง อายุ 43 ปี ชาว อ.เมือง จ.ตรัง เดินทางมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมี ร.ต.อ.หญิงอุชุกร สุขบังเกิด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง รับเรื่องลงบันทึกประจำวัน

โดยระบุว่า จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งประกาศงดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 เช่น การจัดคอนเสิร์ตฯ การแสดงสินค้า เป็นเหตุให้ตนเองได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ โดยที่นายพูนศักดิ์ มีอาชีพเป็นนักร้อง และ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อ้างว่าจะให้เงินเยียวยา แต่ผู้แจ้งไม่ได้รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด ทั้งที่ ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว นายพูนศักดิ์ ผู้แจ้งจึงประสงค์จะแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปยื่นร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง และจะไปแจ้งต่อศาลปกครองๆ ต่อไป

นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเดินมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง เพื่อลงบันทึกประจำวันแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากตนไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาล ตนมีอาชีพเป็นนักร้องอิสระ ทั้งนี้ คำสั่งของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2563 ให้หยุดทำการแสดงตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ตนปฏิบัติตามคำสั่งทุกอย่าง และได้ยื่นเรื่องขอเงินเยียวยาแต่กลับมาถูกตัดสิทธิโดยให้เหตุผลว่าตนเป็นเกษตรกร ซึ่งตนได้แจ้งยกเลิกไปแล้ว และได้ยื่นเรื่องขอทบทวนสิทธิ์ แต่ยังปรากฏข้อมูลเช่นเดิม

ล่าสุด ยังแจ้งว่าตนเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร ซึ่งตนไม่ได้เป็นเกษตรกรไม่มีที่ดินแม้แต่แปลงเดียว วันนี้จึงตัดสินใจมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกล่าวหา พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและร้องศูนย์ดำรงธรรมและร้องศาลปกครองต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook