หลวงพ่อคูณ อาพาธ!หามส่ง รพ.กะทันหัน

หลวงพ่อคูณ อาพาธ!หามส่ง รพ.กะทันหัน

หลวงพ่อคูณ อาพาธ!หามส่ง รพ.กะทันหัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกศิษย์ลูกหาลุ้นระทึก"หลวงพ่อคุณ ปริสุทโธ"เกจิดังแห่งดินแดนที่ราบสูง ถูกหามส่ง รพ.ฉุกเฉิน เกิดล้มป่วยกะทันหัน ความจำบกพร่องอาการน่าเป็นห่วง แพทย์ระบุสาเหตุน่าจะเกิดจากผลกระทบต่อเนื่อง จากการผ่าตัดสมองเมื่อหลายปีก่อน หรือเกิดจากอาการของผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว สั่งเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ภาวนาอาการอย่ารุนแรงไปมากกว่านี้

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อ ข่าวรายงานว่า คณะลูกศิษย์พร้อมด้วยแพทย์พยาบาล รพ.ด่านขุนทด ช่วยนำพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เพื่อส่งขึ้นรถโรงพยาบาลฉุกเฉิน ไปรับการรักษาอาการ ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เนื่องจากหลวงพ่อคูณ มีอาการอ่อนเพลีย สับสน หลงลืม มือสั่น พูดคุยไม่รู้เรื่อง และสภาพความจำบกพร่อง จำใครไม่ค่อยได้

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล มี นพ.กวี ไชยศิริ ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา นพ.วีรศักดิ์ เกียรติผดุงกุล รอง ผอ. และ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ ผอ.ศูนย์โรคหัวใจ และหลอดเลือด พร้อมญาติโยมมาคอยรอรับด้วยความห่วงใย ขณะที่หลวงพ่อคูณ มีสีหน้าวิตกกังวล และไม่ยอมพูดคุย ใด ๆ ทั้งสิ้น จากนั้นคณะแพทย์ได้นำหลวงพ่อคูณ ขึ้นรถเข็นพาไปเข้าห้องตรวจเอกซเรย์คอม พิวเตอร์ความเร็วสูง ที่บริเวณชั้น 1 เพื่อตรวจระบบการทำงานของสมอง แล้วนำเข้าห้องตรวจเอกซเรย์ปอด ประมาณ 20 นาที ก่อนย้ายไปยังอาคาร 8 เข้าห้องตรวจคลื่นสมองไฟฟ้า เพื่อตรวจเช็กระบบการทำงานของสมองอย่างละเอียด แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อคูณ แสดงอาการหงุดหงิด และขัดขืนไม่ยอมให้แพทย์ทำการตรวจ โดยบ่นว่า "กูไม่ตรวจดอก กูไม่เป็นไรดอก กูไม่เป็นไร พากูกลับวัดเถอะ" พร้อมกับลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้รถเข็นด้วยตัวเอง จนคณะแพทย์ และลูกศิษย์ ต้องยอมหลวงพ่อคูณ และพาหลวงพ่อคูณ เข้าไปพักที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นห้องพักประจำทุกครั้งที่เข้าโรงพยาบาล จากนั้น หลวงพ่อคูณ ได้เดินไปขึ้นลิฟต์ และเข้าห้องพักด้วย ตัวเอง โดยมีลูกศิษย์คอยช่วยประคองอย่างใกล้ชิด

นพ.พินิศจัย แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ กล่าวว่า ช่วงเช้าตรู่วันเดียวกันนี้ แพทย์จาก รพ.ด่านขุนทด เข้าไปเจาะเลือดหลวงพ่อคูณ เป็นประจำทุก ๆ 2 เดือน เพื่อตรวจเช็กสภาพร่างกายของหลวงพ่อ จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. หลวงพ่อ เริ่มมีอาการสับสน เบลอ สั่น จำใครไม่ได้ และพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง จนกระทั่งช่วงฉันเพล หลวงพ่อคูณ ฉันได้น้อยกว่าปกติ และไม่ยอมพูดคุยกับใคร ถามก็ไม่ตอบ ประกอบกับมีสีหน้าเหนื่อย อ่อนเพลีย ลูกศิษย์จึงโทรศัพท์แจ้งแพทย์ รพ.ด่านขุนทด ให้มาตรวจดูอาการ ก่อนตัดสินใจพาส่ง รพ.มหาราชนคร ราชสีมา

ด้าน นพ.สุรินทร์ แซ่ตั้ง แพทย์อายุรกรรมประสาท รพ.มหาราชนครราชสีมา ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท กล่าวด้วยว่า ในเบื้องต้นได้ทำการเอกซเรย์สมอง เพื่อตรวจดูว่า มีเส้นเลือดในสมองแตกรั่วรอยใหม่หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่ผลการตรวจไม่พบความผิดปกติ จึงตรวจระบบการทำงานปอด และหัวใจอย่างละเอียด ก็ยังไม่พบความผิดปกติ ส่วนอาการสับสน หลง ๆ ลืม ๆ คาดว่า น่าจะเป็นอาการของผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่อาจจะเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจาก อาการหวาดกลัวแพทย์ที่เข้าไปเจาะเลือด หรือเกิดจากการนั่งรถนาน ๆ หรือทำภารกิจประจำวันแบบซ้ำซากจำเจ จึงทำให้เกิดอาการสับสน และหลงลืม ซึ่งอาการอาพาธลักษณะนี้ แพทย์ต้องเฝ้ารอดูอาการอย่างใกล้ชิดแบบวันต่อวัน อีกทั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะให้นอนพักรักษาตัวที่ รพ.นานเท่าไร

"โชคดีที่หลวงพ่อ ไม่มีอาการไข้ หรืออาการรุนแรงอื่น ๆ แทรกซ้อน ซึ่งอาการหลงลืม สับสน คาดว่าสาเหตุสำคัญ น่าจะเกิดจากผลกระทบต่อเนื่อง จากการผ่าตัดสมองของหลวงพ่อคูณ เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งยังคงมีร่องรอยแผลเป็น ตรงนี้ส่งผลทำให้เกิดอาการชัก เกร็ง หลงลืม มือไม้สั่น และความจำบกพร่อง แต่คาดว่าอาการจะไม่รุนแรงมากกว่านี้" นพ.สุรินทร์ ระบุ.

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook