ช่อ พรรณิการ์ ฟาดมาก! โซเชียลแชร์คลิปสยบผู้ประกาศขณะโฟนอิน ปมสังหารหมู่พฤษภา 53
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมากแชร์คลิปที่นางสาวพรรณิการ์ วานิช สมาชิกคณะก้าวหน้าและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการข่าวรายการ "ใช่หรือไม่ ได้รู้กัน" ของเนชั่นทีวี ช่อง 22 เกี่ยวกับการยิงเลเซอร์ #ตามหาความจริง เพื่อให้สังคมกลับมาพูดถึงการสังหารหมู่ประชาชนเมื่อเดือน พ.ค. 2553 อีกครั้ง
อ้างเสื้อแดงมีอาวุธสงคราม- "ช่อ" ยกคำพิพากษาศาลโต้
การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวอยู่ในบรรยากาศที่ตึงเครียดระดับหนึ่ง เมื่อผู้ประกาศถามความเห็นนางสาวพรรณิการ์ต่อการยิงเลเซอร์ดังกล่าว โดยอ้างว่าการเคลื่อนไหวของคณะก้าวหน้าให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง เพราะมีคนวิจารณ์ว่าภาพข่าวและการพิสูจน์ในศาลอย่างชัดเจนว่าการชุมนุมเสื้อแดงมีชายชุดดำอยู่เบื้องหลัง และผู้ชุมนุมเสื้อแดงถืออาวุธ
"พฤษภา 53 มีชายชุดดำอยู่เบื้องหลัง ภาพข่าวเห็นชัดเจน การพิสูจน์ในชั้นศาลเห็นชัดเจน มีการถืออาวุธสงครามต่อสู้อย่างชัดเจน" ผู้ประกาศ พูด
เหตุนี้ทำให้นางสาวพรรณิการ์ถามผู้ประกาศกลับว่า ผู้ประกาศทราบหรือไม่ว่าผู้เสียชีวิตจากฝั่งผู้ชุมนมและทหารมีกี่ราย แต่ผู้ประกาศไม่ได้ตอบชัดเจน และอ้างอีกว่าศาลเท่านั้นที่จะทราบได้ว่าความจริงคืออะไร นางสาวพรรณิการ์จึงตอบกลับว่า คำพิพากษาศาลอย่างน้อย 12 คดีระบุชัดว่า ผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตเสียชีวิตจากกระสุนของกองทัพ ไม่มีใครมีเขม่าดินปืนที่มือ
"ศอฉ. บอกตลอดว่ากองทัพจะไม่ยิงผู้ชุมนุมมือเปล่า ในคำพิพากษาของศาลอย่างน้อย 12 คำวินิจฉัย ผู้ที่ตายตายจากกระสุนกองทัพ ไม่มีใครมีคราบเขม่าดินปืนที่มือ ไม่มีเลย และศาลยังวินิจฉัยออกมาด้วยนะคะว่า การตรวจยึดอาวุธที่เกิดที่วัดปทุม ซึ่ง 6 ศพเสียชีวิต ไม่ได้เกิดขึ้นจริง และศาลวินิจฉัยไปแล้วว่าไม่มีชายชุดดำอยู่ในวัดปทุม คุณวรเทพเคยทราบความเป็นจริง ข้อเท็จจริงจากศาล ข้อเท็จจริงเหล่านี้เคยอ่านมั้ยคะ" นางสาวพรรณิการ์ พูด
เผยเหตุผลเคลื่อนไหว #ตามหาความจริง
หลังจากนั้นนางสาวพรรณิการ์กล่าวถึงสาเหตุที่คณะก้าวหน้าเคลื่อนไหวด้วยการยิงเลเซอร์ดังกล่าวว่า ที่ผ่านมามีข้อเท็จจริงหลายอย่างปรากฏชัดแล้ว แต่ข้อเท็จจริงหลายอย่างกลับถูกวาทกรรม เช่น "เผาบ้านเผาเมือง" กลบอยู่ ทั้งๆ ที่ศาลเคยยกฟ้องผู้ชุมนุม 2 คนที่เคยถูกกล่าวหาว่าเผาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นางสาวพรรณิการ์กล่าวต่อไปว่า #ตามหาความจริง ปลดปล่อยให้ผู้คนมาพูดคุยกันในโลกออนไลน์ โดยจะเห็นว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางคนมาบอกเล่าเหตุการณ์ในขณะนั้นจากมุมมองของตัวเอง หรือคนในครอบครัว บางคนเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ก็มาเล่าเรื่องราว บางคนมีพ่อเป็นทหาร ก็มาพูดถึงเหตุการณ์ และมีการแลกเปลี่ยนกันไปมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
อ้างเสื้อแดงถือถังแก๊ส แต่ที่จริงเป็นถังดับเพลิง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนผู้ประกาศยังไม่พอใจกับคำตอบ และอ้างว่าคนจำนวนหนึ่งที่คิดแบบเดียวกับนางสาวพรรณิการ์กำลังจะสร้างความจริงอีกชุดมากลบความจริงที่คนเสื้อแดง "เผาบ้านเผาเมือง" ไม่เป็นความจริง ทั้งๆ ที่มีภาพว่าคนเสื้อแดงถือถังแก๊สจะไปวางเพลิงเซ็นทรัลเวิลด์
เมื่อนางสาวพรรณิการ์อธิบายว่า คนเสื้อแดงในภาพดังกล่าว ชื่อว่านายสายชล แพบัว และถามผู้ประกาศกลับไปว่าผู้ประกาศรู้จักชายคนนี้หรือไม่ ผู้ประกาศก็ถามกลับว่านางสาวพรรณิการ์รู้จักชายคนนี้หรือไม่ นางสาวพรรณิการ์จึงอธิบายต่อเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาล
ทันใดนั้น ผู้ประกาศก็ตัดบทและพูดขึ้นมาว่า คณะก้าวหน้ากำลังสร้างความจริงขึ้นมากลบเรื่องนี้หรือไม่ ทำไมจึงไม่หาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ชุมนุมทำ แต่กลับมาโจมตีภาครัฐแต่ฝ่ายเดียว
นางสาวพรรณิการ์จึงเรียกร้องให้ผู้ประกาศฟังที่ตนจะพูดให้จบ และพูดต่อไปว่า นายสายชลแม้จะถูกกล่าวหาว่าถือถังแก๊สไปวางเพลิง แต่สุดท้ายศาลยกฟ้องหลังจากติดคุกฟรีไป 4 ปี เพราะศาลวินิจฉัยว่าสิ่งที่นายสายชลถือไม่ใช่ถังแก๊ส แต่เป็นถังดับเพลิง
"ถ้าคุณวรเทพลองไปเซิร์ชภาพนะคะ เซิร์ชภาพของสายชล แพบัว ในอินเทอร์เน็ตเจอทันทีภาพนั้น เป็นภาพที่ดู... ใช้เวลาไม่ถึง 2 วินาที คุณก็จะเห็นได้เลยว่ามันเป็นถังดับเพลิง ไม่มีใครในประเทศนี้ไม่รู้ว่าถังดับเพลิงหน้าตาเป็นอย่างไร แต่นี่เป็นหลักฐานที่ทำให้เขาติดคุกฟรี 4 ปี เขาบอกว่าเขาถือถังแก๊สเข้าไปเผาเซ็นทรัลเวิลด์ จนสุดท้ายศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คดีสิ้นสุดไปไม่ถึงศาลฎีกา นี่ก็คือความจริงที่เกิดขึ้นค่ะคุณวรเทพ" นางสาวพรรณการ์ ให้สัมภาษณ์
ชาวโซเชียลกระหน่ำแชร์-คนดูเป็นล้าน
คลิปดังกล่าวมีการนำมาเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียทั้งในเฟซบุ๊กส่วนตัวของคนหลายคนและแม้กระทั่งเพจด้านความบันเทิง อย่างเพจ ซีนิว วิวเว่อร์ 4K ที่ภายใน 13 ชั่วโมง มีผู้ชมคลิปดังกล่าวไปแล้วกว่า 1.1 ล้านครั้ง และแชร์มากกว่า 14,000 ครั้ง
นอกจากนี้ เพจดังกล่าวยังคำพูดเด็ดของนางสาวพรรณิการ์มาโพสต์ในคอมเมนต์ด้วย อย่างเช่น "ถามก็ฟังให้จบค่ะ" และ "คุณวรเทพต้องทำการบ้านนะคะ"