ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในรัสเซียพุ่งเกิน 2.8 แสนราย แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลก
ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในรัสเซียเพิ่มขึ้นแซงหน้าทุกประเทศในยุโรป ขณะที่ในละตินอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมมากกว่า 5 แสนราย มากสุดอยู่ที่บราซิล
วันนี้ (18 พ.ค.) เว็บไซต์ Worldometers รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 สะสมในรัสเซียยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 281,752 ราย มากที่สุดในยุโรปแซงหน้า สเปน สหราชอาณาจักร และอิตาลี รวมทั้งส่งผลให้กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 4,801,875 ราย
ทางการรัสเซียกล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากนี้เป็นผลมาจากการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อมากกว่า 6 ล้านครั้งในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อกว่าครึ่งของรัสเซียอยู่ในกรุงมอสโก
นอกจากนี้ ทางการรัสเซียยังกล่าวว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในรัสเซียจะมีเป็นจำนวนมากที่สุดในยุโรปแต่อัตราการเสียชีวิตของรัสเซียนั้นกลับน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในยุโรปรวมถึงในสหรัฐฯ โดยปัจจุบันรัสเซียมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อเพียง 2,631 ราย
ทั้งนี้ ทางการรัสเซียระบุว่า เป็นเพราะรัสเซียได้เรียนรู้จากชาติยุโรปตะวันตกจึงออกมาตรการต่างๆ ได้รวดเร็วทั้งการกักตัวนักท่องเเที่ยวและบุคคลที่มีความเสี่ยง และทำการทดสอบค้นหาผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากเพื่อกักตัว
ขณะที่ในภูมิภาคอเมริกาใต้ จำนวนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นมากกว่า 500,000 ราย โดยในบราซิลมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 241,080 ราย ซึ่งมากกว่าประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากเป็นอันดับ 4 ของโลก
โดยโรงพยาบาลในเซาเปาโลนั้นสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีกเพียง 10% เท่านั้น และคาดว่าจำนวนเตียงที่รองรับผู้ป่วยจะเต็มภายในสัปดาห์ข้างหน้านี้
ทางด้านนายกเทศมนตรีเมืองเซาเปาโลออกมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นด้วยการให้ประชาชนอาศัยอยู่ในบ้านเพื่อชะลอการแพร่ระบาด ก่อนที่โรงพยาบาลจะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงในบราซิลนั้นอาจจะมากกว่าที่ทางการรายงาน เนื่องจากบราซิลยังมีการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนน้อย และรัฐบาลบราซิลไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการจัดการกับการระบาดในครั้งนี้
ทั้งนี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนลสัน ทีช รัฐมนตรีสาธาณสุขของบราซิลเพิ่งประกาศลาออกหลังจากเข้ารับตำแหน่งได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยไม่ระบุเหตุผลในการลาออก
ส่วนประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนาโร ได้พยายามผลักดันการใช้ยาต้านมาลาเรียในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ทั้งนี้อดีต รมว.สาธารณสุขไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว พร้อมกับชี้ว่าขาดหลักฐานการสนับสุนทางวิทยาศาสตร์ในการใช้ยาดังกล่าวรักษาผู้ติดเชื้อ