ไทยดัน 7 โบราณสถานขึ้นบัญชีชั่วคราวมรดกโลก

ไทยดัน 7 โบราณสถานขึ้นบัญชีชั่วคราวมรดกโลก

ไทยดัน 7 โบราณสถานขึ้นบัญชีชั่วคราวมรดกโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธีระ เผยลาวหนุน เชียงแสน - สุวรรณโคมคำ ขึ้นร่วม พระบรมธาตุ-ปฐมเจดีย์-ล้านนา-ศรีวิชัย-เจ้าพระยา-เจ้าพระยา-เจ้าฟ้าฯนริศ ขึ้นมรดกโลกชั่วคราว

นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เปิดเผยในฐานะประธานอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรมของคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย โดยที่ประชุมอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมสู่มรดกโลก เสนอโดยกรมศิลปากร 5 แหล่ง

ได้แก่ แหล่งวัฒนธรรมล้านนา ภูมิทัศน์วัฒนธรรมแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา กลุ่มสถาปัตยกรรมของสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ เส้นทางวัฒนธรรมศรีวิชัย แหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสนและสุวรรณโคมคำ จ.เชียงราย ประเทศไทย

รวมถึง เมืองบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) และอีก 2 แหล่งโดยชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เสนอพระบรมธาตุวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ชาวนครปฐมเสนอองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งอนุกรรมการ มีนายพิสิฐ เจริญวงศ์ ผู้อำนวยการสปาฟา นางสาวิตรี สุวรรณสถิตย์ ที่ปรึกษา วธ. และอนุกรรมการคนอื่นๆ เห็นชอบให้ 7 แหล่งโบราณสถานเสนอเข้าสู่บัญชีชั่วคราว(Tentative) แหล่งมรดกโลกวัฒนธรรม

รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า แหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสนและสุวรรณโคมคำเมืองบ่อแก้ว สปป.ลาว ได้รับการสนับสนุนจากนักวิชาการหลายฝ่ายเป็นเรื่องที่ดี ทางสำนักโบราณคดีของไทยรายงานให้ตนทราบว่า นายบ่อแสงคำ วงดาลา รมช.กระทรวงวัฒนธรรมสปป.ลาว ให้การสนับสนุนขึ้นร่วมมรดกโลกทางวัฒนธรรมด้วย ขณะนี้ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ระดับล่างประสานงานกัน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้วิชาการและการจัดทำบัญชีชั่วคราว ทั้งจะมีการหารือในระดับรัฐบาลต่อไป ซึ่งตนจะได้รายงานความคืบหน้าให้นายก อร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการแห่งชาติฯ รับทราบ อย่างไรก็ตามมรดกทางวัฒนธรรมทั้ง 7 แหล่งจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบในเร็วๆ นี้

"อายุของแหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสน กับแหล่งโบราณคดีสุวรรณโคมคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว อยู่ใน ช่วงเวลาเดียวกันร่วมพันปี และนับเป็นก้าวสำคัญในความร่วมมือระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีความใกล้ชิดกันที่สุดขึ้นมรดกโลกร่วมกันแห่งแรกของสองประเทศ จะทำให้ฟื้นฟูบูรณะเมืองโบราณเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย" นายธีระ กล่าว

นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผอ.สำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวว่า ในระดับเจ้าหน้าที่ของสองประเทศได้มีการประสานงานมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ลงพื้นที่เมืองโบราณสุวรรณโคมคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว พบว่าคูเมืองโบราณมีสภาพสมบูรณ์อยู่มาก ไม่มีชาวบ้านเข้าไปรบกวนถากพงทำไร่ จึงเห็นร่องรอยที่ตั้งถิ่นฐานบ้านเมืองในอดีต ครั้งที่เป็นช่องประตูแม่น้ำโขงตอนเหนือของสองประเทศรับอารยธรรมยิ่งใหญ่ของโลกคือจีน-อินเดีย มาผสมผสานจนเกิดเป็นเอกลักษณ์ศิลปกรรมที่โดดเด่นของเมืองโบราณแห่งนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook