ดาวโจนส์ปิดตลาดบวกพุ่งกว่า 900 จุด ขานรับข่าวทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 คืบหน้า

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 900 จุด เมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประเทศต่างๆ เริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยข่าวดังกล่าวได้ช่วยพยุงหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญดีดตัวขึ้นด้วย

• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,597.37 จุด พุ่งขึ้น 911.95 จุด หรือ +3.85%
• ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,953.91 จุด เพิ่มขึ้น 90.21 จุด หรือ +3.15%
• ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,234.83 จุด เพิ่มขึ้น 220.27 จุด หรือ +2.44%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นหลังจาก Moderna, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจไบโอเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา แถลงว่า ผลการทดลองทางคลินิกในการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้ร่างกายของอาสาสมัครผลิตแอนตีบอดีซึ่งสามารถกำจัดเชื้อไวรัสในผู้ป่วยโควิด-19

ผลการศึกษาที่ดำเนินการโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) พบว่า ระดับของแอนตีบอดีดังกล่าวเท่ากับในตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากโรคโควิด-19

Moderna ระบุว่า วัคซีนดังกล่าว ซึ่งมีชื่อว่า mRNA-1273 มีความปลอดภัย และตอบสนองได้ดีในการทดลองในช่วงแรก โดย Moderna จะเริ่มการทดลองในขั้นต่อไปในเดือน ก.ค.

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้น Moderna, Inc. ทะยานขึ้น 19.19%

• Moderna เผยผลทดลองวัคซีนมีประสิทธิภาพต้านโควิด-19 เล็งทดลองเฟสต่อไป ก.ค.นี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากการที่นายพาวเวลให้สัมภาษณ์ในรายการ “60 Minutes” ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะทรุดตัวในขณะนี้ พร้อมกับให้คำมั่นว่า เฟดจะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้รอดพ้นจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวยืนยันว่า เฟดสามารถอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินอย่างไม่จำกัด เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้

นอกจากนี้ การทยอยเปิดเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ได้ช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งความหวังดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 21.13% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน พุ่งขึ้น 13.8% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 9.18% หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 13.5% หุ้นเจ็ทบลู พุ่งขึ้น 8.9%

ส่วนหุ้นในกลุ่มเรือสำราญนั้น หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ทะยานขึ้น 16.69% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง พุ่งขึ้น 18.06% และหุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 15.36%

หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทสหรัฐฯ ที่ให้บริการรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน บวกเพิ่มขึ้น 3.5% แม้มีรายงานว่า GrubHub ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสั่งอาหารทางออนไลน์ ได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากอูเบอร์ นอกจากนี้ อูเบอร์ยังประกาศปลดพนักงาน 3,000 คนเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะเปิดสโตร์ 25 แห่งในสหรัฐฯ ภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากมั่นใจว่าสภาพแวดล้อมมีความปลอดภัยมากพอ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านบวก 7 จุด สู่ระดับ 37 ในเดือน พ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากความสนใจมากขึ้นของผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอยู่ในระดับต่ำ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน เม.ย., คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 28-29 เม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือน พ.ค. จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน พ.ค. จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน พ.ค. จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือน เม.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน เม.ย. จาก Conference Board