หมอนิติเวช รพ.สรรรพสิทธิประสงค์ แจ้งความเกรียนคีย์บอร์ดโจมตีผลชันสูตร "น้องชมพู่"

หมอนิติเวช รพ.สรรรพสิทธิประสงค์ แจ้งความเกรียนคีย์บอร์ดโจมตีผลชันสูตร "น้องชมพู่"

หมอนิติเวช รพ.สรรรพสิทธิประสงค์ แจ้งความเกรียนคีย์บอร์ดโจมตีผลชันสูตร "น้องชมพู่"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 12.25 น. (19 พ.ค.63) นายศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ อายุ 46 ปี แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เดินเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ รร.ต.อ.มนูญ การกล้า รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี แจ้งว่าเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 63 ได้รับศพ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ จาก สภ.ดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อมาทำการชันสูตรพลิกศพเนื่องจากสงสัยว่า ด.ญ.ชมพู่ ถูกฆ่าเสียชีวิต พนักงานสอบสวน สภ.ดงหลวงจึงได้ส่งศพเด็กหญิงชมพู่มาตรวจที่ นิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์โดยละเอียด

ซึ่งผลการตรวจเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายและไม่พบร่องรอยการร่วมเพศ ส่วนสาเหตุการตายไม่สามารถระบุได้เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่า 

ต่อมาญาติเด็กหญิงชมพู่ยังติดใจในสาเหตุการตายญาติจึงได้นำศพ ด.ญ.ชมพู่ไปตรวจพิสูจน์อีกครั้งที่สถาบันนิติเวชสำนักงานตำรวจแห่งชาติผลการตรวจของสถาบันนิติเวช ได้ระบุสาเหตุการตายไว้ว่าไม่ปรากฏสาเหตุการตายแต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ ซึ่งได้หารือกับแพทย์ผู้ชันสูตรที่สถาบันนิติเวชแล้ว ไม่มีการระบุว่าศพถูกทำร้ายร่างกายหรือมีการร่วมเพศ โดยผลการชันสูตรไม่ได้ขัดแย้งกันกับผลชันสูตรของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์แต่อย่างใด

ซึ่งในเรื่องดังกล่าวประชาชนให้ความสนใจจึงมีสื่อออนไลน์หลายช่องนำไปลงและเสนอข่าว  ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนหลายคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมและใส่ความเป็นจำนวนมาก ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชังและเสื่อมเสียชื่อเสียง ได้รับความเสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบุคคลซึ่งแสดงความคิดเห็นไม่ชอบด้วยกฎหมา ยทำให้เกิดความเสียหายตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ กล่าวว่า การหมิ่นประมาทลักษณะของการแสดงความคิดเห็น กระทบต่อชื่อเสียงค่อนข้างมาก ตนเป็นแพทย์นิติเวชมา 16 ปีแล้ว มีลูกศิษย์และทำงานร่วมกับพนักงานสอบสวนในท้องที่เป็นประจำ การคอมเมนต์ในลักษณะทำลายชื่อเสียง ซึ่งในวันข้างหน้าการให้ความเห็นของตนอาจจะมีคนทักท้วง ในส่วนที่มันไม่ใช่ความจริงได้อีก  จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบุคคลซึ่งแสดงความคิดเห็นดังกล่าว เบื้องต้นตรวจพบแล้วประมาณ 20 ราย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook