เปิดใจยายขับวินวัย 70 แทง รปภ. ตายคาที่ อ้างถูกต่อยก่อน มีดอ่อนไม่คิดว่าจะแทงเข้า
จากกรณีเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ หนุ่ม รปภ.ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับป้าวัย 70 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง จนหนุ่ม รปภ. ถูกคู่กรณีใช้อาวุธมีดแทงเสียชีวิต บริเวณทางเข้าลานจอดรถเอกชนแห่งหนึ่งปากซอยมิตรภาพ ริมถนนเทพรัตน์ กม.7 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ บางแก้ว สมุทรปราการ ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเสียชีวิตกับ นางพะเยา อายุ 70 ปี
นางพะเยา อายุ 70 ปี ที่ใช้มีดแทง รปภ.จนเสียชีวิต ได้เล่าว่า ในขณะเกิดเหตุ ผู้ตายได้เข้ามาต่อยหน้าตนก่อน สามีตนจึงเข้าไปผลักออกและห้ามปรามว่าทำไม่ทำอย่างนี้ ผู้ตายก็ไม่ฟังมันก็ชกใหญ่เลย แล้วก็เอาไม้หน้าสามมาตีตนที่แขนและหัวไหล่ ตนโมโหมาก สามีตนก็เข้าไปห้าม ผู้ตายเลยละจากตนไปทำร้ายสามีจนหัวทิ่ม แต่ตอนที่เอาไม้ตีกล้องไม่เห็น ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงวิ่งไปเอามีดปอกผลไม้ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ พอผู้ตายเห็นตนไปหยิบมีดมา ก็วิ่งไปเอาเหล็กแป๊บ ตนก็ไม่คิดว่ามันจะแทงเข้า เพราะมีดมันอ่อน ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่ามันตายเพราะมีดของตน
ขณะที่ผู้จัดการบริษัท รปภ.ที่ผู้ตายทำงานอยู่ได้ออกมาเปิดเผยว่า เท่าที่ฟังมาก็ไม่เคยมีปัญหาและเป็นคนที่ขยันและตั้งใจทำงาน ส่วนที่ว่าผู้ตายดื่มเหล้าหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบแต่ว่าผู้ชายก็น่าจะมีบ้าง ตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เลยไม่รู้ว่าเขาดื่มเหล้าหรือเปล่า แต่ถ้าถามว่าเขาทำงานอย่างไง เขาทำงานดีและเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ผู้ตายทำงานอยู่ที่บริเวณประตูไม้กระโดกทางเข้าออก ซึ่งในเบื้องต้นทางบริษัทเราก็มีแนวทางในการช่วยเหลือในกรณีที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก็มีกองทุนทดแทนอยู่แล้ว และก็มีเงินฌาปนกิจศพ อีกต่างหากไม่เกี่ยวกัน
ทางด้านญาตินายสถาพร รปภ. ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้ตายได้มาพักอาศัยอยู่กับตนที่ซอยเอกมัย แขวงวัฒนา เขตวัฒนา กทม. โดยปกติผู้ตายเป็นคนเงียบ มีโรคส่วนตัวสูง และ สติไม่สมประกอบ ผู้ตายได้มาทำงานอยู่ที่เกิดเหตุประมาณ 6 เดือน โดยจะเข้าทำงานในช่วงเช้ามืดและกลับเข้าบ้านในช่วงค่ำ เป็นคนไม่สุงสิงกับใครและเวลากลับบ้านก็จะอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน และตนที่เกิดขึ้นจากข่าวทางโทรทัศน์ จึงเดินทางมาที่ สภ.บางแก้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้ก่อเหตุ แค่ เตะ ต่อย ก็พอแล้ว ไม่น่าจะถึงแทงกันเสียชีวิตเลย
ด้านนายทัน สามีผู้ก่อเหตุ ได้กล่าวว่า ตอนนี้มันตันไปหมด หากมีเงินล้านหนึ่งตนให้หมดเลย ตนไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเรื่องมีราวกันแบบนี้ ตนอยู่กับป้ามีประมาณ 50 ปีแล้ว ตั้งแต่อายุ 20 มาจนถึงปัจจุบันนี้อายุ 73 ปีเข้าไปแล้ว และที่บ้านก็อยู่ด้วยกันทั้งหมด 11 คน และภรรยาตนก็เป็นคนบริหารจัดการเรื่องในบ้านทั้งหมด ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวกับตน แต่เห็นบอกว่าจะเรียกมาสอบในเรื่องทะเลาะวิวาท จะเอายังไงก็เอา เพราะตนก็ไม่มีอะไรจะให้เอาแล้ว ที่คนตายทำไมไม่ไปเอาผิดกับเขาเลย ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนเริ่มก่อนด้วยซ้ำไม่เห็นมาเสียค่าปรับ แล้วจะมาเอาค่าปรับกับพวกตน และตนก็ยืนยันว่าจุดที่ตนจอดรถจักรยานยนต์ เป็นด้านนอกใกล้ปากทางเข้าออก ซึ่งมันก็ไม่ได้ขวางอะไรใคร