ตำรวจออกหมายเรียก 2 ส.ส. อภิปรายไม่ไว้วางใจธรรมนัสในสภาฯ อ้างหมิ่นประมาทผ่านสื่อ

พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน โพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊กวันนี้ (21 พ.ค.) ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 2 คน ของพรรค ถูกตำรวจ จ.พะเยา หลังจากอภิปรายไม่ไว้วางใจนายธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส. จ.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา

พรรคก้าวไกลระบุว่า หมายเรียกของตำรวจ จ.พะเยา ระบุว่า ส.ส. ทั้ง 2 คน ซึ่งก็คือนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กรุงเทพหมานคร และนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมกันหมิ่นประมาทรัฐมนตรีคนดังกล่าวผ่านการโฆษณา

นอกจากนี้ เพจของพรรคก้าวไกลยังระบุว่า การที่นายธรรมนัสแจ้งความเอาผิดต่อ ส.ส. ทั้ง 2 คน ไม่ใช่เครื่องน่าแปลกใจ และอาจรับความจริงไม่ได้ และการกระทำนี้แสดงถึงความขี้ขลาด และเป็นวิธีที่ผู้มีอำนาจใช้ "ปิดปาก" อยู่เสมอ

"แจ้งความหมิ่นประมาทผู้ที่ออกมาเปิดเผยความจริง การกระทำดังกล่าวแสดงถึงความขี้ขลาดและเป็นวิธีการของผู้มีอำนาจ(มืด) ในการปิดปากผู้ที่เห็นต่าง"

" การตัดสินใจแจ้งความครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย ตัว ร.อ.ธรรมนัส อาจจะรับความจริงไม่ได้ และถ้าหากเห็นว่าการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ในการตรวจสอบคุณสมบัติตำแหน่งของฝ่ายบริหารเป็นสิ่งที่ไม่สมควร"

"ธรรมนัส" มั่นใจคุณสมบัติรัฐมนตรีครบถ้วน

ก่อนหน้านี้นายธรรมนัสตกเป็นที่สนใจของสังคม จากการถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการนำยาเสพติดเข้าออสเตรเลีย และประเด็นนี้ถูกนำมาพูดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ ซึ่งนายธรรมนัสปฏิเสธ

รัฐมนตรีรายนี้ชี้แจงอีกว่า แม้ตนถูกจำคุกในออสเตรเลียหรือไม่ แต่คำพิพากษาของศาลต่างประเทศนำมาใช้กับไทยไม่ได้ เพราะเป็นคนละเขตอำนาจ ดังนั้นตนจึงมีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครบถ้วน

• อ่านเพิ่มเติม ธรรมนัส ลั่นคดีติดคุกในออสเตรเลีย ไม่ส่งผลต่อคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี

แม้การอภิปรายเกิดขึ้นอย่างเข้มข้น แต่นายธรรมนัสก็ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งต่อไปด้วยคะแนน 269 คะแนน ต่อ 55 คะแนน ถือว่าต่ำสุดในบรรดารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ปฏิเสธพัวพันตุนหน้ากากอนามัย

นอกจากนี้ นายธรรมนัสยังถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากมีชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นหนึ่งในทีมงานของผู้ช่วยนายธรรมนัส เตรียมนำหน้ากากอนามัยหลักล้านชิ้นไปจำหน่ายที่ประเทศจีน ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงสูงสุดของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้คนในสังคมอย่างหนัก

เหตุนี้ทำให้นายธรรมนัสชี้แจงว่า ตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งยังสั่งให้คณะทำงานแจ้งความเอาผิดกับชายคนนั้นด้วย