ถอดบทเรียนกรณี "แม่ปุ๊ก" ฟันเงินบริจาค 20 ล้าน เตือนสังคมหยุดโอนไวเพราะความสงสาร

ถอดบทเรียนกรณี "แม่ปุ๊ก" ฟันเงินบริจาค 20 ล้าน เตือนสังคมหยุดโอนไวเพราะความสงสาร

ถอดบทเรียนกรณี "แม่ปุ๊ก" ฟันเงินบริจาค 20 ล้าน เตือนสังคมหยุดโอนไวเพราะความสงสาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีสะเทือนสังคม แม่ปุ๊ก คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งเป็นแม่ของน้องอมยิ้ม เด็กหญิง อายุ 4 ขวบ และ น้องอิ่มบุญ เด็กชายอายุ 3 ขวบ ที่เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ถูกจับคดีฉ้อโกง และทำร้ายร่างกายเด็กจนได้รับอันตรายสาหัส ปัจจุบันถูกฝากขังที่เรือนจำคลองเปรม และคัดค้านการประกันตัว โดยมีเพจคลิปวงจรตั้งข้อสังเกตว่า แม่ปุ๊ก อาจวางยา น้องอมยิ้ม จนกระทั่งเสียชีวิต เพื่อฮุบเงินบริจาค 20 ล้านบาท

ล่าสุด “แม่ปุ๊ก” ถูกตั้ง 5 ข้อหาหนัก โดยสถานะปัจจุบันถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิง เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว 300,000 บาท

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก “นักสังคมสงเคราะห์เล่าเรื่อง” โพสต์ข้อความกรณีน้องอมยิ้มที่เสียชีวิต โดยมีแม่เป็นผู้ต้องสงสัย โดยระบุว่า “ใจดี โอนไว การบริจาคเงินกับการส่งเสริมการทารุณกรรมที่คุณมีส่วนร่วม”

จริงๆ ในกรณีแบบนี้แอดมินเองอยากจะพูดมาหลายครั้งแต่ด้วยความกลัวชาวเน็ตจวก ก็เลยไม่พูดดีกว่า จนมาถึงวันนี้ วันที่มีเด็กเสียชีวิตไปแล้วหนึ่งคน และอีกคนเกือบเสียชีวิตเพื่อเซ่นความใจบุญ และการแสวงประโยชน์จากความใจดีของคนไทย

เราต้องนึกถึงอันตรายที่จะมีต่อเด็ก ต่อคนแก่ หรือคนอื่นๆ ที่อาจตกอยู่ในอันตราย ต้องถูกใช้เป็นเครื่องมือในการถูกจองจำในสภาวะยากลำบากเพื่อให้เราได้มีโอกาส ทำบุญผ่านมนุษย์ผู้ตกยาก หลายกรณีเด็กจะถูกทารุณกรรมช้าๆ ซ้ำๆ ให้มีอาการที่แย่ลงเรื่อยๆ หรือดีขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในสภาพที่แย่ น่าสงสารเพื่อเรียกร้องความสงสารจากผู้ใจดีให้โอนเงินมาให้

น้องอมยิ้มเองก็ถูกปฏิบัติเช่นนั้น แม่ทั้งถ่ายวีดีโอตอนน้องอ้วกเป็นเลือดมาให้ทุกท่านดู อัปเดตความย่ำแย่ของลูกให้ได้รับชม คนดูพอดูแล้วมืออ่อน โอนทันที

เวลาเจอกรณีแบบนี้จำไว้เสมอนะคะเมืองไทยมีสิทธิ 30 บาท ถ้าค่าใช้จ่ายไม่พอจริงๆ เคสในลักษณะนี้จะถูกส่งต่อพบนักสังคมสงเคราะห์เพื่อประเมินวินิจฉัยปัญหาทางสังคมต่อไป แต่ในเบื้องต้นถ้าพบเคสแบบนี้แนะนำเลยค่ะ ให้เข้าพบนักสังคมสงเคราะห์ที่โรงพยาบาล

จำไว้เสมอว่าการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนเป็นหน้าที่ของ “รัฐ” การบริจาคกันเองมีความเสี่ยงมาก หลายคนเมื่อเคสถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กก็รวยกันชั่วข้ามคืน และที่สำคัญเวลาเราบริจาคกันเข้าบัญชีส่วนตัวของใครก็แล้วแต่ นั่นคือเรากำลังถอยห่างให้รัฐที่ควรรับผิดชอบ ท่องไว้ว่าโทร 1300 ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ ถ้าอยากบริจาคแนะนำบริจาคผ่านองค์กรสาธารณประโยชน์ต่างๆ ดีกว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook