แจงเหตุเผา หลวงพ่อสุดใจ เร็ว เพราะพระป่าไม่เก็บร่างนาน ผลชันสูตรมรณภาพจากสำลักควัน
"ผู้ว่าฯ-ตำรวจ-แพทย์-พระ" ร่วมแถลงปมการมรณภาพและเผาพระอาจารย์สุดใจเร็ว เพราะทำตามมาตรฐานพระป่าไม่เก็บร่างไว้นาน อีกทั้งผลชันสูตรการมรณภาพพบว่าเกิดจากการสำลักควันหลังจากเกิดไฟไหม้
วานนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กุฏิเก่าหลวงปู่สี กุสลธโร ในวัดเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.ณภพ ชุณหกรรณ์ รอง ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4, พระอธิการสุธรรม สุธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด และ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่มาร่วมทำข่าวพิธีประชุมเพลิงสรีระสังขาร พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ที่ถูกไฟคลอกมรณภาพบนกุฏิ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยมี พระราชสารโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธ) เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ อารามหลวง พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย นายกอบเกียรติ กาญจนะ ไวนาวัจกร วัดป่าบ้านตาด ร่วมในการแถลงข่าว และมีคณะศิษยานุศิษย์บางส่วนที่ทราบข่าวมาร่วมรับฟัง
ซึ่งหลังจากที่มีการพูดถึงสาเหตุการมรณภาพของ พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ที่ถูกไฟคลอกมรณภาพบนกุฏิ และมีการจัดพิธีประชุมเพลิง หลังมรณภาพได้เพียง 2 วัน อีกทั้งมีผู้อ้างตัวเป็นลูกศิษย์ แกนนำชาวพุทธ เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีมาตรา 157 กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธ) และไวยาวัจกร วัดป่าบ้านตาด ที่ระบุว่า "หากพวกท่านยังจะดึงดันเผาศพกัน โดยที่ไม่มีการชันสูตรจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินคดีหรือการสีบสวน สอบสวนเพิ่มเติมใดใด เผาพรุ่งนี้ เผาปีหน้า ความโปร่งใสมันต่างกัน #รอได้ไม่รีบ"
นายนิรัตน์ ผู้ว่าฯ อุดรธานี กล่าวว่า วันนี้ตนเชิญคณะสงฆ์ และส่วนราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องมาแถลงข่าว เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ของพระอาจารย์สุดใจ ได้สบายใจว่า หลังการมรณภาพของท่านแล้ว ได้ดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ การดำเนินการเพียงพอจะสรุปคดีของพนักงานสอบสวนหรือไม่ และส่วนอื่นที่ดำเนินการประชุมเพลิงเร็วไปหรือไม่ ใครเป็นคนกำหนด โดยเรื่องที่มีการประชุมเพลิงเร็ว ที่เป็นวิถีปฏิบัติของแต่ละวัด ซึ่งวัดป่าบ้านตาดเป็นไปตามมติสงฆ์วัดป่าบ้านตาด และเป็นไปตามข้อกำหนดที่จะมีการผ่าพิสูจน์ร่างของพระอาจารย์สุดใจ ที่ส่งร่างท่านไปผ่าพิสูจน์ มีทั้งผู้คัดค้านไม่ต้องการให้ผ่า และค้านกลัวว่าจะใช้เวลานานเป็นเดือน แต่ครั้งนี้เป็นการตายผิดธรรมชาติ ตามข้อกฎหมายต้องดำเนินการ และตนประสานทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ผ่าพิสูจน์เรียบร้อยในคืนเดียว จึงสามารถประชุมเพลิงภายใน 3 วันได้
ด้าน พระอธิการสุธรรม สุธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด กล่าวว่า การเผาศพเป็นไปตามมาตรฐานของพระป่า เมื่อมีพระละสังขารแล้วจะเก็บร่างไว้ไม่นาน จะรีบทำพิธีฌาปนกิจให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อไม่ให้พระที่อยู่ต้องมาวุ่นวาย แต่ที่มีครูบาอาจารย์บางท่านเก็บไว้นาน เป็นเรื่องของสังคมภายนอกได้เข้ามาจัดการดูแลแทนคณะสงฆ์ ซึ่งก็มีพระเกจิบางท่านที่เก็บไว้เพียงไม่มีวัน รวมทั้งมีการระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนราชการและคณะสงฆ์จึงมีมติ ไม่ให้มีการชุมนุมของศรัทธาญาติโยมกันมากระหว่างงาน เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม และเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ จึงเห็นชอบให้เผาโดยเร็ว
รศ.นพ.ชาญชัย รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น แถลงว่า ได้รับการประสานว่าจะนำร่างพระอาจารย์สุดใจฯ มาผ่าชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกฎหมาย ตนจึงจัดทีมแพทย์ที่พร้อมที่จะทำให้เสร็จในคืนวันนั้น โดยให้แพทย์นิติเวชผู้เชี่ยวชาญผ่าพิสูจน์ ได้ผลการชันสูตรคือ สภาพภายนอกของท่านห่มจีวรที่ถูกไฟไหม้บางส่วนและเปียกน้ำ มีเศษผงขี้เถ้ากระจายทั่วร่าง มีบาดแผลถูกความร้อนที่ใบหน้า คอ แขน มือ ขา และกระจายทั่วไป ไม่พบบาดแผล กระดูกแตกหัก ที่เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนอวัยวะภายใน พบคราบเขม่าจำนวนมากในหลอดลมคอไปถึงขั้วปอด และปอดมีสีดำบางหย่อม ในกะเพราะอาหารไม่พบลักษณะเม็ดยาที่ตกค้าง แพทย์ลงความเห็นเสียชีวิตเนื่องจากสมองขาดอากาศ สำลักเขม่าควันไฟ โดยท่านเสียชีวิตหลังจากเกิดไฟไหม้
ขณะที่ พ.ต.อ.พิษณุ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า การทำสำนวนคดีการตายผิดธรรมชาติ ต้องดำเนินการหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแท้จริง จากพยานหลักฐาน 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ หลักฐานทางการแพทย์ผลชันสูตร และจากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อม พยานบุคคล ก่อนและหลังเกิดเหตุ เพื่อรวบรวมประกอบสำนวนการตายผิดธรรมชาติเนื่องจากสาเหตุใด ส่วนผลการตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ที่รับผิดชอบ จ.อุดรธานี เข้ามาตรวจสอบไปแล้ว ส่วนการสอบพยานแวดล้อม 2 ปาก ให้การว่า แอร์ที่กุฏิท่านเสีย และท่านเคยบ่นว่า เปิดพัดลมแล้วได้กลิ่นเหม็นไหม้ โดยจะต้องสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.ณภพ รอง ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 แถลงว่า คดีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทั้งจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และอุดรธานี ได้ร่วมตรวจพิสูจน์เก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เบื้องต้นตรวจไม่พบการลุกไหม้ที่ผิดปกติที่เป็นการลุกไหม้จากสารเร่ง เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง หรืออื่นๆ ส่วนจุดที่คล้ายว่าจะเป็นต้นเพลิง น่าจะอยู่ใกล้บริเวณประตูด้านใน ไหม้จากบนลงล่าง และไหม้จากข้างล่างขึ้นไปอีกครั้ง ส่วนการเก็บวัตถุพยาน อยู่ในระหว่างการตรวจเก็บอย่างละเอียด โดยทางพนักงานสอบสวนจะต้องนำส่งตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนการจะออกรายงานฉบับสมบูรณ์เราต้องรอคณะกรรมการและผลตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนเจลแอลกอฮอล์ยังตรวจไม่พบว่ามี ส่วนพัดลมที่มีพยานบอกนั้น จะนำส่งตรวจอย่างละเอียดในห้องแล็บอีกครั้ง ซี่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไร ซึ่งต้องรอผลตรวจต่างๆ ก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มีผู้บอกว่าเป็นศิษย์และชาวพุทธเข้าแจ้งความกับกองปราบปราม พ.ต.อ.พิษณุ เปิดเผยว่า การที่มีผู้สงสัยว่า การฌาปนกิจที่ทำอย่างรวดเร็ว ทุกภาคส่วนที่ตอบคำถามคงจะทำให้มั่นใจว่า เรามีการเก็บหลักฐานไว้อย่างละเอียด ทั้งการชันสูตรพลิกศพ และการเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อม อย่างเพียงพอ
ขณะที่ นายนิรัตน์ ผู้ว่าฯ อุดรธานี กล่าวสรุปว่า การป้องกันอัคคีภัยที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน และมีโอกาสมากขึ้นในช่วงฤดูแล้งที่อุณหภูมิสูง รวมทั้งสภาพสายไฟฟ้าที่เก่า ชำรุด ซึ่งทุกจังหวัดจะมีการแจ้งเตือนให้ระวัง โดยเฉพาะอาคารเก่าที่สร้างมานาน เช่น โรงเรียน วัด กุฏิ ที่สร้างมานาน ที่สายไฟฟ้าอาจจะชำรุด โดยต้องมีการสำรวจตรวจสอบสายไฟฟ้าที่มีสภาพเก่าตามตัวอาคารต่างๆ ว่าควรจะเปลี่ยนหรือไม่ หากมีอายุใช้งานเกิน 10 ปี เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้