ผู้เชี่ยวชาญเผย “การบินระหว่างประเทศ” อาจไม่คืนสู่สภาวะปกติหลัง COVID-19 จนถึงปี 2023
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association – IATA) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการบินระหว่างประเทศอาจจะยังไม่กลับสู่สภาวะปกติ หลังจากเผชิญกับการระบาดใหญ่ของโรค COVID-19 และอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี จึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นช้ากว่าที่หลายคนคาดหวัง ประกอบกับมาตรการจำกัดการท่องเที่ยวที่ยังคงใช้อยู่ในหลายประเทศ รวมทั้งความวิตกกังวลของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับโรค COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลกไปจนถึงปี 2023 จากการสำรวจพบว่า 69% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกที่จะไม่เดินทาง ดีกว่าต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ IATA เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณา
อเล็กซองด์ เดอ จูนิแอค ผู้อำนวยการและซีอีโอของ IATA กล่าวว่า “หากจะให้ธุรกิจการบินเป็นตัวเร่งให้เกิดการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ เราต้องไม่ทำให้สถานการณ์แย่ลง โดยการทำให้การเดินทางไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ด้วยมาตรการกักตัว”
“เราจำเป็นต้องมีทางออกสำหรับการเดินทางที่ปลอดภัย โดยต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร ว่าพวกเขาจะได้รับการเดินทางที่ปลอดภัยแบบไม่ต้องยุ่งยาก รวมทั้งให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลว่าประเทศของพวกเขาจะปลอดภัยจากการนำเข้าเชื้อไวรัส” เดอ จูนิแอค กล่าว
IATA กล่าวว่า การเดินทางภายในประเทศจะเป็นแนวทางหลักเมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มดำเนินต่อไป ทว่าการเดินทางระหว่างประเทศนั้นอาจจะยังไม่สามารถกลับสู่สภาวะปกติ เหมือนก่อนหน้าที่จะเกิดโรคระบาด จนกว่าจะถึงปี 2023 และความต้องการในการเดินทางระหว่างประเทศในปีหน้าอาจจะลดลงราว 24% ซึ่งต่ำกว่าในปี 2019
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา IATA ได้ออกหลักเกณฑ์ในการเปิดให้บริการสายการบินอีกครั้ง โดยเรียกร้องให้สายการบินใส่ใจเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง และใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการเดินทางโดยสายการบินพาณิชย์อาจจะไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มที่
