ลูกค้าการบินไทยช็อก! คืนตั๋ววันนี้ได้เงินเร็วสุด "อีกครึ่งปี" อ้างคนแห่ขอรีฟันด์แสนล้านบาท

ลูกค้าการบินไทยช็อก! คืนตั๋ววันนี้ได้เงินเร็วสุด "อีกครึ่งปี" อ้างคนแห่ขอรีฟันด์แสนล้านบาท

ลูกค้าการบินไทยช็อก! คืนตั๋ววันนี้ได้เงินเร็วสุด "อีกครึ่งปี" อ้างคนแห่ขอรีฟันด์แสนล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวน่าตกใจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 พ.ค.) เกี่ยวกับการขอเงินค่าตั๋วเครื่องบินคืนจากการบินไทย ซึ่งตนควรจะได้เงินคืนแล้วในวันที่โพสต์ เพราะทำเรื่องขอคืนเงินตั้งแต่ 60 วันก่อน

ผู้โพสต์ระบุว่า เงินที่จะได้คืนมีมูลค่าราว 35,000 บาท เป็นตั๋วเดินทางไป-กลับ ที่มีจุดหมายเป็นประเทศญี่ปุ่น

แต่เมื่อไม่มีความคืบหน้าจึงโทรศัพท์ไปขอเงินคืนอีกครั้ง และได้รับคำตอบว่า ต้องรออีกอย่างน้อย 180 วัน หรือ 6 เดือน เพราะขณะนี้มีลูกค้าขอเงินคืนเป็นมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่งการบินไทยยังไม่มีเงินมาชดเชยเพราะยังไม่มีรายได้จากการบิน

"ตอนนี้มีลูกค้าขอ Refund (รีฟันด์/ขอเงินคืน) ค่าตั๋วกว่า 'แสนล้าน' บาท เรายังไม่มีเงินคืน เพราะยังไม่มีรายได้จากการบิน ต้องรอ 'อย่างน้อย' 180 วัน อย่างช้า ยังไม่มีกำหนด" ผู้โพสต์ อ้างคำพูดของพนักงานที่อยู่ปลายสาย

นอกจากนี้ ผู้โพสต์เล่าอีกว่า พนักงานที่ปลายสายอ้างอีกเหตุผล คือ การบินไทยกำลังเข้าสู่แผนการฟื้นฟูกิจการจากการล้มละลาย ที่จะมีการปรับโครงสร้างหนี้กับบรรดาเจ้าหนี้หลังจากนี้ ทำให้ผู้บริหารยังอนุมัติจ่ายเงินคืนค่าตั๋วให้แก่ลูกค้าไม่ได้ ทั้งยังย้ำอีกครั้งว่ายังรับปากไม่ได้เช่นกันว่าจะหาเงินมาคืนให้ลูกค้าได้เมื่อใด

"ทางเรากำลังจะปรับโครงสร้างหนี้ ตอนนี้ผู้บริหารยังไม่เซ็นอนุมัติจ่าย เราจึงยังไม่สามารถหาเงินมาคืนลูกค้าได้ และไม่สามารถรับปากว่าจะคืนเงินได้เมื่อไหร่"

โพสต์ดังกล่าวเป็นที่สนใจอย่างมากจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เพราะมีผู้กดแสดงอารมณ์ในเฟซบุ๊กกว่า 2,600 ครั้ง และแชร์ออกไปอีกว่า 1,200 ครั้ง หลายคนแท็กเพื่อนของตัวเองมาถามว่า ได้เงินคืนแล้วหรือยัง บางความเห็นยังแนะนำให้ทำใจกับเงินที่อาจจะได้หรือไม่ได้คืน และให้มองว่าอาจจะต้องทำบุญเสียแล้ว ส่วนบางความเห็นก็รู้สึกตกใจกับตัวเลขเงินที่การบินไทยติดหนี้ลูกค้า

บางความเห็นระบุว่า แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่น่าดีใจนัก แต่ก็เห็นว่าพนักงานปลายสายพูดตรงไม่อ้อมค้อมเพราะไม่มีเงินจริงๆ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook