เสี่ยค้าไม้ยิงเพื่อนสวนข้างๆ ดับคาที่ อ้างปลูกต้นดาวเรืองล้ำเขต เตือนไม่ฟังแถมด่ากลับ
เสี่ยค้าไม้หัวร้อนอ้างเพื่อนสวนข้างๆ ปลูกต้นไม้ล้ำเขตและชอบขโมยปลาในบ่อ ชักปืนยิง วิ่งหนีแล้วล้มเลยตามยิงซ้ำ ดับคาที่
(27 พ.ค.63) เมื่อเวลา 08.00 น. พ.ต.ต.เนติศักดิ์ นราจันทาทิพย์ สว.(สอบสวน) สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากศุนย์วิทยุสื่อสารว่ามีคนยิงกันเสียชีวิต อยู่ในสวนยางพาราบ้านเหล่าเงิน ต.เหล่าทอง อ.โซ่พิสัย ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ระหว่างกำลังเตรียมตัวออกไปตรวจที่เกิดเหตุได้มี นายสรรพ์พงษ์ อายุ 46 ปี อาชีพซื้อขายไม้ยูคาลิปตัส ได้เดินขึ้นมาบนโรงพักพร้อมกับแจ้งว่า ตนเองเป็นมือปืนที่ยิงคู่กรณีจนเสียชีวิต ในสวนยางพาราบ้านเหล่าเงินดังกล่าว พร้อมกับนำอาวุธปืนพกสั้นชนิดไทยประดิษฐ์ขนาด .38 มามอบตัวดัวย ซึ่งยังเหลือกระสุนติดอยู่ในลูกโม่ 1 นัด
เมื่อสอบสวนเรื่องราวเบื้องต้นแล้ว จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปยังที่เกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที ที่เกิดเหตุเป็นเถียงนาในสวนยางพารา พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา นายเสถียร อายุ 55 ปี สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างเถียงนา สวมใส่เพียงกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว เข้าที่สีข้างด้านซ้าย 2 นัด แขนซ้ายแฉลบเข้าราวนมซ้าย 1 นัด ในที่เกิดเหตุเก็บหัวกระสุนได้ 2 นัดปลอกกระสุนอีก 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายสรรพ์พงษ์ มือปืนให้การรับสารภาพอ้างว่า ผู้ตายเอาดอกดาวเรืองมาปลูกล้ำที่ดินของตัวเอง เคยตักเตือนแล้วแต่ยังไม่เชื่อฟัง แถมยังเอาต้นมะค่าโมงมาปลูกเพิ่มเติมด้วย และก็มักจะแอบไปขโมยเอาปลาในบ่อของตนมากินเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์เพื่อไปเคลียร์ปัญหากับผู้ตาย แต่ถูกต่อว่าด่ากลับมาจึงเกิดความโมโหชักปืนออกมายิงไป 3 นัด ขณะผู้ตายนั่งนึ่งข้าวเหนียวอยู่ ก่อนจะกระโดดลงเถียงนาจะวิ่งหนีแต่ล้มลงตนจึงเดินเข้าไปยิงซ้ำอีกจนเสียชีวิตดังกล่าว
ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนางฐิติกานต์ อายุ 43 ปี ภรรยาผู้ตายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุหลังกรีดยางเสร็จตนได้กลับเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อจะไปป้อนข้าวลูกที่พิการ พร้อมกับนำกับข้าวมาให้สามีกิน ระหว่างทางได้พบกับนายสรรพงษ์มือปืนขี่รถยนต์สวนทางมาและได้ตะโกนบอกตัวเองว่าทะเลาะกับเมียมา ต้นก็เลยเตือนว่าให้ใจเย็นๆ ค่อยพูดค่อยจากันนะ จากนั้นประมาณชั่วโมงกว่าก็กลับเข้ามาในสวนยางเพื่อนำกับข้าวมาส่งให้สามี แต่มาพบสามีนอนเสียชีวิตแล้ว ก็มั่นใจว่ามือปืนคงเป็นนายสรรพ์พงษ์ เพราะเห็นขับรถสวนออกไปท่าทางลุกลี้ลุกลน ซึ่งไม่คิดว่าจะฆ่ากันได้ถึงเพียงนี้ เพราะปกติแล้ว ทั้งสามีและมือปืนก็เคยได้อาศัยซึ่งกันและกันมีอะไรก็ช่วยเหลือกันแบ่งกันกินเป็นประจำ