พ่อย่องตัดศีรษะลูกสาวอายุ 13 อ้างครอบครัวอับอาย หลังหนีไปอยู่กินกับหนุ่มอายุห่าง 21 ปี

อิหร่าน อินเตอร์เนชั่นแนล ทีวี รายงานว่า เด็กหญิงอายุ 13 ปีคนหนึ่ง ถูกพ่อของตัวเองย่องฆ่าตัดศีรษะในห้องนอนกลางดึกเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งพ่ออ้างว่าสร้างความเสื่อมเสียให้วงศ์ตระกูล จากการที่เคยหนีออกจากบ้านไปอยู่กินกับชายอายุ 34 ปี ที่พ่อไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่

หลังจากทั้งคู่หนีไปอยู่ด้วยกัน ครอบครัวของทั้ง 2 คน ก็แจ้งตำรวจ จนมีการเปิดปฏิบัติการตามหานานถึง 5 วัน ก่อนพบตัวและควบคุมตัวทั้งคู่ จนท้ายที่สุดตำรวจก็พาเด็กหญิงอายุ 13 ปีคนนี้กลับมาบ้านที่เมืองตาเลช ทางตะวันออกของประเทศ

สื่ออิหร่านสำนักหนึ่งรายงานว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาตัวเด็กหญิงรายนี้กลับไปยังบ้านของครอบครัว เธอขอร้องอย่าให้เจ้าหน้าที่ส่งกลับบ้าน เพราะเกรงว่าถ้ากลับไปแล้วเธอจะมีอันตรายถึงขั้นถูกฆ่า แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะกฎหมายศาสนาที่บังคับใช้ในอิหร่านกำหนดให้ต้องส่งกลับภูมิลำเนา

หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเด็กหญิงรายนี้ก็ก่อเหตุสุดสลดใจดังกล่าวขณะที่เด็กหญิงกำลังนอนหลับ และหลังจากก่อเหตุแล้วก็เรียกตำรวจให้มาจับตัวเอง ขณะที่มือยังถือเคียวที่ใช้ก่อเหตุ

นายคาเซม ราซมี นายอำเภอในท้องที่ดังกล่าว บอกว่า พ่อของเด็กหญิงคนนี้ถูกควบคุมตัวแล้ว และตำรวจกำลังสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น

ส่วนสำนักข่าวอัล อาราบิยา รายงานว่า พ่อของเด็กอาจถูกลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ไม่น่าจะถึงขั้นประหารชีวิต เพราะฆาตกรรมลักษณะนี้อาจได้รับการยกเว้นความผิดตามกฎหมายศาสนา เพราะผู้ก่อเหตุเป็นผู้ปกครองของเหยื่อ

การฆ่าเพื่อล้างความอับอายครั้งนี้ถูกพูดถึงและสะเทือนขวัญต่อสังคมอิหร่านในวงกว้าง จนทำให้นายฮัสซาน รูฮานี ประธานาธิบดี เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีเสนอกฎหมายที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการฆ่าคนในครอบครัวเพื่อล้างความอับอายเช่นนี้อีก

ส่วนตำรวจคนหนึ่งในกรุงเตหะราน เผยว่า ขณะนี้ไม่มีใครทราบตัวเลขการฆ่าเพื่อล้างความอับอายที่แท้จริงในอิหร่าน แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ที่ราว 20% ของการฆาตกรรมทั้งหมดในประเทศ

ทั้งนี้กฎหมายอิหร่านอนุญาตให้ผู้หญิงแต่งงานได้ตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไป ส่วนอายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่แต่งงานอยู่ที่ 23 ปี